เทสโก้ บริษัทค้าปลีกรายใหญ่สุดของอังกฤษ รายงานว่า บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3 อันเป็นผลมาจากการลดราคาสินค้าและบัตรสะสมคะแนนสองเท่าของทางบริษัท
โดยยอดขายต่อสาขาเดิม (same-store sales) ในอังกฤษ ไม่นับรวมน้ำมันและภาษีมูลค่าเพิ่ม เพิ่มขึ้น 2.8% ในรอบ 13 สัปดาห์ ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 28 พฤศจิกายน โดยเฉพาะสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร อย่างของเล่นและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น ส่วนยอดขายในต่างประเทศขยายตัว 12% โดยได้รับแรงหนุนหลักจากยอดขายในสหรัฐของร้าน เฟรช แอนด์ อีซี่ ในเครือเทสโก้ หลังจากที่มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และเปิดตลาด
ขณะที่รายได้รวม ไม่นับรวมรายได้จากการจำหน่ายน้ำมัน เพิ่มขึ้น 8.8%
เทอร์รี่ เลอฮี ซีอีโอของบริษัท กล่าวว่า ผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ยอดขายในอังกฤษและทั่วโลกจึงปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนั้นบัตรสะสมคะแนนยังช่วยดึงดูดให้ลูกค้าตัดสินใจมาซื้อของที่เทสโก้มากขึ้นด้วย
ขณะเดียวกันบริษัทเปิดเผยว่า เทสโก้ แบงก์ มีลูกค้ามาเปิดบัญชีธนาคารมากขึ้น ขณะที่จำนวนหนี้เสียที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดปีก็เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม ยอดขายที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 3% และน้อยกว่าไตรมาสสองที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 3.1% ส่งผลให้หุ้นเทสโก้ร่วงลงถึง 2% ในการซื้อขายช่วงเช้าที่ตลาดหุ้นลอนดอน