แคนนอน เห็นแววจีนก้าวขึ้นเป็นตลาดกล้องที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2558 แซงหน้าสหรัฐ คาดยอดขายกล้องในแดนมังกรปีนี้พุ่งสูงถึง 10% หลังจากเมื่อปีก่อน จีนมียอดขายกล้องของแคนนอนในสัดส่วน 15% ของยอดขายทั้งหมด
แคนนอน อิงค์ ผู้ผลิตกล้องยักษ์ใหญ่ของโลกมีแผนเปิดร้านจำหน่ายสินค้าในประเทศจีนเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 2 เท่าเป็น 25 แห่งในสิ้นปีนี้ หลังจากที่ได้เพิ่มการจ้างงานในแผนกธุรกิจการตลาดที่กรุงปักกิ่งขึ้นอีก 10% แตะที่ 1,421 ตำแหน่งในปีที่แล้ว ซึ่งความเคลื่อนไหวสะท้อนถึงแผนการรุกขยายธุรกิจในเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดในจีนที่ดูจะมีอนาคตสดใสและช่วยขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกในอนาคต
ขณะเดียวกัน แคนนอน ผู้ผลิตกล้องดิจิตอลรุ่นดัง EOS และ PowerShot คาดการณ์ว่า การเติบโตของยอดขายสินค้าในกลุ่มตลาดที่พัฒนาแล้วจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ และคาดว่ายอดขายกล้องทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 6.6% แตะที่ 25.7 ล้านเครื่องในปีนี้
สมาคมกล้องและผลิตภัณฑ์สำหรับถ่ายภาพรายงานว่า มูลค่าการส่งออกกล้องในตลาดเอเชียที่ไม่รวมประเทศญี่ปุ่นในเดือนม.ค.พุ่งสูงกว่า 2 เท่าแตะที่ 3.01 หมื่นล้านเยน (336 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งแซงหน้ายุโรปและอเมริกาพร้อมก้าวขึ้นเป็นตลาดกล้องที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ยอดส่งออกกล้องทั่วโลกเพิ่มขึ้น 59%
แคนนอนครองส่วนแบ่งในตลาดกล้องในประเทศจีนได้สูงสุดที่ 28% ในปี 2551 ขณะที่โซนี่ คอร์ปรั้งอันดับ 2 ตามด้วยซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดในอันดับ 3 และคาดว่าการส่งออกกล้องไปยังตลาดจีนจะเพิ่มขึ้นอีกราว 12 ล้านเครื่องในปีหน้าจากระดับ 9.2 ล้านเครื่องในปี 2552 นอกจากนี้ ยังมีการคาดหมายว่า ตลาดจีนจะสามารถเติบโตเทียบชั้นสหรัฐและยุโรปได้ในอีก 5-6 ปี หลังสามารถรักษาระดับการขยายตัวต่อปีที่ราว 10% ไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ แคนนอนซึ่งทำกำไรได้ต่ำสุดในรอบ 10 ปีเมื่อปีที่ผ่านมานั้นคาดว่า รายได้สุทธิจะเพิ่มขึ้น 52% แตะที่ 2 แสนล้านเยนในปีนี้ เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกช่วยกระตุ้นอุปสงค์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องและอุปกรณ์สำนักงานมากขึ้น