นายดอน เอสมอนด์ รองประธานฝ่ายขายของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า โตโยต้าตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐกลับคืนมาให้ได้มากที่สุดในปีพ.ศ.2553 หลังจากโตโยต้าสูญเสียส่วนแบ่งตลาดไปในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากเหตุการณ์เรียกคืนรถยนต์ทั่วโลกกว่า 8 ล้านคันส่งผลให้ดีมานด์รถยนต์ของค่ายโตโยต้าหดตัวลงด้วย
ทั้งนี้ โตโยต้าตั้งเป้าว่าบริษัทจะชิงส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐให้ได้ถึง 16.7% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับในปีพ.ศ.2551 หลังจากโตโยต้าเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม)
โดยออโตดาต้า คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ในสหรัฐรายงานว่าส่วนแบ่งตลาดของโตโยต้าในสหรัฐหดตัวลงสู่ระดับ 12.8% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปี 2548 ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของโตโยต้าหล่นลงมาอยู่ที่อันดับสาม ขณะที่จีเอ็มมีส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐเป็นอันดับหนึ่งที่ 18.1% ในเดือนก.พ. ตามด้วยฟอร์ดที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับสองที่ 17.6%
นอกจากนี้ นายเอสมอนด์กล่าวว่า โตโยต้าตั้งเป้าจำหน่ายรถยนต์ให้ได้ถึง 11.7 ล้านคันในปีนี้ เมื่อเทียบกับปีพ.ศ.2552 ที่ขายได้เพียง 10.4 ล้านคัน อย่างไรก็ตาม ออโต้ดาต้ามองว่าส่วนแบ่งตลาดที่ระดับ 16.7% ในปีนี้อาจไม่เพียงพอที่จะช่วยให้โตโยต้าก้าวขึ้นมาทำยอดขายได้เป็นอันดับสองในตลาดสหรัฐ
โตโยต้าได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์เรียกคืนรถยนต์ 2.21 ล้านคันที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. พร้อมทั้งประกาศระงับการขายรถยนต์รุ่นดัง 8 รุ่น รวมถึง Camry และ Corolla ตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.จนถึงต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาคันเร่งค้าง โดยรถยนต์ทั้ง 8 รุ่นคิดเป็นร้อยละ 60 ของยอดขายโดยรวมของโตโยต้าในสหรัฐ
เว็บไซต์ Edmunds.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์วิจัยตลาดยานยนต์ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองซานตาโมนิกา รัฐแคลิฟอร์เนีย คาดการณ์ว่า ยอดขายรถโตโยต้าในสหรัฐเดือนมี.ค.มีแนวโน้มพุ่งขึ้น 30% เนื่องจากโตโยต้าออกแคมเปญที่สร้างแรงจูงใจให้กับผู้ซื้อ ซึ่งรวมถึงข้อเสนอเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยระยะเวลานานถึง 5 ปี