ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อในสหรัฐเปิดเผยว่า อุตสาหกรรมสื่อสหรัฐกำลังเผชิญความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม แม้ว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวก็ตาม
แฟรงค์ เซสโน ผู้อำนวยการโรงเรียนสื่อและกิจการสาธารณะแห่งมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน กล่าวระหว่างการพูดคุยถึงรายงาน "State of the Media 2010" ว่า อุตสาหกรรมสื่อสหรัฐกำลังเผชิญปัญหาที่หนักกว่าเดิม โดยสื่อดั้งเดิมอย่างหนังสือพิมพ์ วิทยุ และทีวี กำลังมีปัญหาเรื่องรายได้มากกว่าเรื่องผู้ชมผู้ฟัง ขณะที่สื่อใหม่อย่างอินเทอร์เน็ตก็เผชิญปัญหาการขยายธุรกิจที่ขาดความมั่นคง
ข้อมูลสถิติจากปี 2552 เปิดเผยว่าหนังสือพิมพ์ในสหรัฐซึ่งรวมถึงหนังสือพิมพ์ออนไลน์ มีรายได้ลดลง 26% ส่งผลให้ตัวเลขขาดทุนตลอดสามปีที่ผ่านมาเพิ่มเป็น 41% ส่วนโทรทัศน์มีรายได้ลดลง 24% หรือร่วงลงมากกว่าปีก่อนหน้าถึงสามเท่า ขณะที่วิทยุมีรายได้ลดลง 18%, นิตยสารร่วงลง 19%, เน็ตเวิร์กทีวีขยับลง 7% ส่วนรายได้จากการโฆษณาออนไลน์ลดลงราว 5%
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วสื่อใหม่มีโอกาสหลุดพ้นจากภาวะถดถอยมากกว่าสื่อดั้งเดิม แต่สื่อใหม่ก็มีปัญหาของตนเองเช่นกัน โดยผลสำรวจใหม่เผยว่า 79% ของผู้บริโภคข่าวออนไลน์แทบไม่เคยคลิกดูโฆษณาเลย
นอกจากนั้นผลสำรวจยังเผยว่ามีชาวอเมริกันเพียง 35% ที่เซฟเว็บข่าวเป็น favorite และมีเพียง 19% จากจำนวนดังกล่าวที่เข้าเว็บนั้นอีกครั้งเมื่อเว็บนั้นคิดค่าบริการ
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญโต้แย้งว่าแม้อุตสาหกรรมสื่อกำลังเผชิญความท้าทาย แต่สื่อที่นำเสนอข่าวสารก็ไม่ได้มีความสำคัญน้อยลง โดยชาร์ล เซนนอตต์ บรรณาธิการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง GlobalPost องค์กรข่าวออนไลน์ระดับโลก กล่าวว่า อุตสาหกรรมสื่อกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน และนี่เป็นโอกาสดีที่นักเรียนจะเข้าศึกษาสาขานี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน