บริติช แอร์เวย์ส และไอบีเรีย ได้ลงนามในข้อตกลงควบรวมกิจการกันในวันนี้ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การเป็นสายการบินรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และช่วยให้สองสายการบินที่ขาดทุนสามารถเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้
ทั้งนี้ คาดว่าแผนการควบรวมกิจการจะแล้วเสร็จภายในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นสายการบินที่มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 7.5 พันล้านปอนด์ และสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 58 ล้านคนต่อปี ในเส้นทางกว่า 200 เส้นทาง ขณะเดียวกันชื่อแบรนด์ของทั้ง 2 สายการบินก็จะยังคงอยู่ต่อไป
ทั้ง 2 ฝ่ายได้พยายามที่จะสรุปข้อตกลงดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2551 เพื่อหาทางรอดจากช่วงขาลงของธุรกิจการบินหลังจากที่ต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจโลก และการแข่งขันที่รุนแรงกว่าเดิมกับสายการบินต้นทุนต่ำ
การควบรวมกิจการครั้งนี้ จะทำให้บริติช แอร์เวย์ส สามารถขยายเครือข่ายการบินในละตินอเมริกา และยังทำให้สายการบินสามารถขยายฐานบริการนอกเหนือออกไปจากสนามบินฮีธโทรว์ด้วย ส่วนไอบีเรียก็ยังสามารถถอนตัวได้ หากบริติช แอร์เวย์ส ไม่สามารถสรุปข้อตกลงที่น่าพอใจในการลดยอดขาดดุลบำนาญมูลค่า 3.7 พันล้านปอนด์ของบริษัทได้ แต่นักวิเคราะห์มองว่า ส่วนที่เหลื่อมล้ำของทั้ง 2 บริษัทนั้นไม่น่าจะทำให้การดำเนินการล่าช้า
ก่อนหน้าที่ บริติช แอร์เวย์ส และไอบีเรียจะประกาศข้อตกลงนี้ มีรายงานว่า ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส และยูเอส แอร์เวย์ส อยู่ในระหว่างการเจรจาเรื่องการรวมกิจการเช่นกัน