สายการบินดอยช์ ลุฟท์ฮันซา และแอร์ ฟรานซ์ รวมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมการบินในยุโรปต่างออกมากดดันรัฐบาลในยุโรปให้ตรวจสอบการปิดน่านฟ้าอีกครั้ง หลังจากที่เขม่าควันที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งไอย์ยาฟยัลลาโยกูลในไอซ์แลนด์แพร่กระจายปกคลุมบริเวณท้องฟ้าหลายประเทศในยุโรป จนทำให้สายการบินจำนวนมากต้องงดให้บริการในบริเวณที่ได้รับผลกระทบ
หลังจากวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา มีเที่ยวบินถึง 63,000 เที่ยวบินที่ต้องถูกยกเลิกไป เพราะภูเขาไฟลูกดังกล่าวปะทุออกมาจนทำให้เกิดเขม่าควันฟุ้งกระจายไปทั่วน่านฟ้าของยุโรป ส่งผลให้สนามบินในเยอรมนีไปจนถึงรัสเซียต้องปิดทำการชั่วคราว ทางด้านสเปน ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานสหภาพยุโรปได้จัดการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมในวันนี้ เพื่อหารือเรื่องแผนการฉุกเฉินที่จะมีการนำมาใช้
ทั้งนี้ ลุฟท์ฮันซา และแอร์ฟรานซ์ รายงานว่า ประสบความสำเร็จในการทดสอบเที่ยวบินที่ไม่มีผู้โดยสารในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แอร์ฟรานซ์ระบุว่า จากการตรวจสอบเครื่องบินแอร์บัส เอ320 ที่ใช้บินจากกรุงปารีสไปยังเมืองตูลูสเมื่อวานนี้นั้น ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด ขณะที่สมาคมสายการบินยุโรป ซึ่งมีสมาชิก 36 สายการบินระบุว่า ต้องการให้มีการประเมินเรื่องข้อบังคับเกี่ยวกับน่านฟ้าในทันที
ขี้เถ้าจากภูเขาไฟอาจจะทำให้เครื่องยนต์ของเครื่องบินไม่สามารถทำงานได้ เพราะขี้เถ้าอาจจะทำให้เครื่องยนต์ได้รับผลกระทบจากความร้อนและส่งผลกระทบต่อกังหันลม
ยูโรคอนโทรล ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลเที่ยวบินในยุโรป คาดการณ์ว่า น่านฟ้าในยุโรปถึงครึ่งหนึ่งอาจจะไม่มีความเสี่ยงด้านการบินแล้วในวันนี้ ขณะที่นายแอนดรูว์ แอโดนิส รัฐมนตรีคมนาคมอังกฤษ กล่าวแสดงความเห็นเมื่อวานนี้ว่า เที่ยวบินต่างๆในยุโรปเหนือจะยังไม่มีความปลอดภัยในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงข้างหน้านี้