นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของธนาคารในไตรมาส 1/53 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 707 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7% เทียบกับไตรมาส 4/52 ที่มีกำไรสุทธิจำนวน 688 ล้านบาท และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 62% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิจำนวน 436 ล้านบาท
นอกจากการปรับตัวที่ดีขึ้นของความสามารถในการทำกำไร ธนาคารยังคงปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดำรงสภาพคล่องในระดับสูง มีสัดส่วนเงินฝากที่ดี และมีเงินกองทุนตามกฎหมายในระดับสูง
ส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) และสินทรัพย์รอการขายปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้วและช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลงเหลือ 52,727 ล้านบาทจาก 54,095 ล้านบาทในไตรมาส 4/52 และจาก 73,957 ล้านบาทในไตรมาส 1/52 จากการจัดการสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ทำให้สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลงเหลือ 12.1% จากไตรมาส 4/52 อยู่ที่ 12.7% ใ ส่วนสินทรัพย์รอการขาย (NPA) ลดลงเหลือเพียง 9,887 ล้านบาท จากไตรมาส 4/52 อยู่ที่ 11,132 ล้านบาท และทำให้สัดส่วนสินทรัพย์รอการขายต่อสินทรัพย์ลดลงเหลือเพียง 1.8%
นายบุญทักษ์ กล่าวอีกว่า การเงินของธนาคารยังคงมีสภาพคล่องสูง โดยเงินสด รายการระหว่างธนาคารและเงินลงทุนในไตรมาส 1/53 มีสัดส่วน 33.8% ของสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ เทียบกับไตรมาส 4/52 อยู่ที่ 29.3%
สัดส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินฝากลดลงเหลือ 88.4% จากไตรมาส 4/52 อยู่ที่ 90.3% โดยธนาคารมีโครงสร้างเงินฝากที่แข็งแกร่ง มีเงินฝากกระแสรายวันและออมทรัพย์คิดเป็นสัดส่วน 52.1% ของเงินฝากทั้งสิ้น เพิ่มจาก 49.5% ในไตรมาส 4/52
นอกจากนี้ ธนาคารยังดำรงเงินกองทุนตามกฎหมายในระดับสูง โดยมีเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงในไตรมาส 1/53 อยู่ที่ 16.4% จากไตรมาส 4/52 ที่อยู่ 17.1% ซึ่งสูงกว่าอัตราขั้นต่ำ 8.50% ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
และในไตรมาส 1/53 TMB มีความก้าวหน้าในการดำเนินการโครงการ HR Transformation ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะทำให้ธนาคาร เป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพมุ่งเน้นผลงานเป็นหลักและตอบแทนการปฏิบัติงานของพนักงาน ตามผลงาน ความสามารถ และสอดคล้องกับตลาดสำหรับแต่ละบทบาทหน้าที่ลักษณะงาน เพื่อรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพ และเพิ่มโอกาสในการพัฒนาบุคลากรของธนาคารให้สามารถทำงานได้เต็มศักยภาพ มีความก้าวหน้าในอาชีพการงานอย่างแท้จริง เพื่อการเป็นธนาคารไทยชั้นนำ มาตรฐานระดับโลก มีการเติบโตที่ยั่งยืน และตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่าย ทั้งลูกค้า ผู้ถือหุ้น พนักงาน และสังคม