ตัวแทนของเคเอฟซีในเมืองเสิ่นหยาง ประเทศจีน ตัดสินใจลงนามในสัญญาแรงงานร่วมฉบับแรกที่บริษัททำในประเทศจีน โดยยินยอมขึ้นค่าแรงให้พนักงานและทำตามข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานในท้องถิ่น
สัญญาดังกล่าวระบุว่า พนักงานเคเอฟซีราว 2,000 คนจะได้รับเงินเดือนขั้นต่ำ 900 หยวน (131.7 ดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นจากข้อเสนอเดิมที่ 700 หยวนต่อเดือน และได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น 5% ทุกปี
ผู้บริหาร Yum! Brands Inc. ในเมืองเสิ่นหยาง ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเคเอฟซี 57 สาขา และร้านพิซซ่าฮัท 11 สาขา ยอมรับว่าบริษัทได้รับแรงกดดันหลังจากที่สื่อรายงานเรื่องการเจรจาระหว่างบริษัทกับสหภาพแรงงานในท้องถิ่น
บริษัทระบุในแถลงการณ์เมื่อต้นเดือนว่า พนักงานส่วนมากในเสิ่นหยางได้เงินเดือนเกิน 900 หยวนอยู่แล้ว ดังนั้นการเซ็นสัญญาแรงงานครั้งนี้จึงไม่ได้หมายความว่า บริษัทจำเป็นต้องขึ้นเงินเดือนในทันที
ต้วน หยาง รองประธานสหภาพแรงงานเสิ่นหยาง กล่าวว่า การลงนามในสัญญาแรงงานร่วมถือเป็นบรรทัดฐานสำคัญสำหรับการแก้ปัญหาค่าแรงระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง นอกจากนั้นยังเป็นการยืนยันว่าลูกจ้างในธุรกิจบริการอย่างร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดก็มีสิทธิได้รับการขึ้นเงินเดือนทุกปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน