ผลสำรวจคุณภาพรถของเจดี พาวเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอตส์ (J.D. Power and Associates) เผยว่า คุณภาพแบรนด์รถสหรัฐแซงหน้าแบรนด์รถต่างประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี
ผลการสำรวจคุณภาพรถได้จากการร้องเรียนปัญหาของผู้บริโภคในช่วง 90 วันแรกที่ซื้อรถไป โดยวัดจากจำนวนปัญหาที่พบต่อรถ 100 คัน ซึ่งค่าเฉลี่ยของรถทุกค่ายอยู่ที่ 109 ปัญหาต่อรถ 100 คัน
สำหรับปีนี้รถที่ผลิตในสหรัฐพบปัญหาเฉลี่ยน้อยกว่ารถที่ผลิตในต่างประเทศ โดยรถที่ผลิตในสหรัฐพบ 108 ปัญหาต่อ 100 คัน ขณะที่รถที่ผลิตในต่างประเทศพบ 109 ปัญหาต่อ 100 คัน ต่างกับเมื่อ 10 ปีก่อนซึ่งรถที่ผลิตในต่างประเทศมีปัญหาน้อยกว่ารถที่ผลิตในสหรัฐมาก
โดยปกติแบรนด์รถสหรัฐจะเป็นรองแบรนด์รถต่างประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะค่ายรถจากเอเชียอย่างโตโยต้า ซึ่งผู้บริโภคเชื่อว่าผลิตรถได้ดีกว่าเจเนอรัล มอเตอร์ส, ฟอร์ด และไครสเลอร์
แต่สำหรับปีนี้เจดี พาวเวอร์ เผยว่า ฟอร์ด มอเตอร์ โค พัฒนาคุณภาพรถแบบก้าวกระโดดที่สุดในบรรดาแบรนด์ทั้งหลาย โดยขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 5 ขณะที่โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ร่วงลงไปอยู่อันดับที่ 21 จากอันดับ 6 เมื่อปีที่แล้ว
"ค่ายรถในสหรัฐพัฒนาคุณภาพรถได้อย่างน่าประทับใจ โดยเห็นได้ชัดตั้งแต่ปีพ.ศ.2550 เป็นต้นมา" เดวิด ซาร์เจนท์ รองประธานฝ่ายวิจัยยานยนต์โลกของเจี พาวเวอร์ กล่าว
ผลการจัดอันดับ 10 ค่ายรถคุณภาพสูงสุดโดยเจดี พาวเวอร์ มีดังนี้
1. พอร์ช
2. อาคูร่า
3. เมอร์เซเดส-เบนซ์
4. เล็กซัส
5. ฟอร์ด
6. ฮอนด้า
7. ฮุนได
8. ลินคอล์น
9. อินฟินิติ
10. วอลโว่
สำนักข่าวซินหัวรายงาน