บริษัทน้ำมัน บีพี เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุการณ์น้ำมันจากแท่นขุดเจาะของบริษัทรั่วไหลลงสู่อ่าวเม็กซิโก ได้เพิ่มขึ้นแตะ 2.65 พันล้านดอลลาร์แล้ว ซึ่งค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้รวมถึง การอุดรูรั่ว การทำความสะอาดคราบน้ำมันที่สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมทั่วบริเวณ และการจ่ายเงินชดเชยแก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์นี้
ทั้งนี้ บีพีได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากฝ่ายการเมืองสหรัฐ โดยส.ส. ส.ว. และรัฐบาลสหรัฐต่างพากันออกมาวิพากษ์วิจารณ์บีพีเกี่ยวกับวิธีการตอบสนองและรับมือต่อเหตุการณ์น้ำมันรั่วที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อเดือนเม.ย. ซึ่งแรงกดดันที่ถาโถมได้ส่งผลให้บีพียอมตกลงจัดสรรเงินมูลค่า 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่กองทุนชดเชยความเสียหาย และประกาศงดการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทในปีนี้
ล่าสุด ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ และนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ ได้หารือกันเรื่องปัญหาบีพีที่การประชุมสุดยอด G20 ที่แคนาดาวานนี้ ซึ่งทำเนียบนายกฯอังกฤษได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมดังกล่าวว่า ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันว่า บีพีควรรับผิดชอบและปฏิบัติตามข้อสัญญาที่ให้ไว้ทั้งหมด
ทั้งนี้ หุ้นของบีพีร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปีในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และราคาหุ้นบีพีก็ร่วงลงไปแล้วมากกว่า 50% นับตั้งแต่ที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นเมื่อเดือนเม.ย.