บริษัท เบอร์ลินฟาร์มาซูติคอลอินดัสตรี้ จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์ชั้นนำของประเทศไทย ได้แต่งตั้ง คุณอมาล นาจ อดีตรองประธานอาวุโสบริษัทไฟเซอร์ (นิวยอร์ค) เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการบอร์ด บริหารของบริษัทเบอร์ลิน พร้อมประกาศ เบอร์ลินฯ จะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท พาราไดม์ ฟาร์มา ในประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจในประเทศไทยและบุกตลาดสำคัญในแถบภูมิภาคเอเซีย
คุณอมาล มีความคุ้นเคยกับธุรกิจในภูมิภาคเอเซียเป็นอย่างดี เนื่องจากก่อนหน้านี้ใน ปี 2543 เคยดำรงตำแหน่งเป็น Country Manager ของบริษัทไฟเซอร์ ประจำประเทศไทยและอินโดจีน ก่อนที่จะย้ายไปดำรงตำแหน่งสุดท้ายที่ ไฟเซอร์ นิวยอร์ค ซึ่งคุณอมาล มีบทบาทสำคัญในการปรับโครงสร้างการบริหารงานของบริษัท ไฟเซอร์ประเทศไทย และอินโดจีน จนเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ มีผลงานทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วสู่อันดับที่ 1 ในช่วงระหว่างที่คุณอมาลบริหารงาน โดยคุณอมาล ได้เข้าร่วมงานกับไฟเซอร์ในปี 2540 หลังจากเป็นผู้เขียนบทวิเคราะห์รายงานข่าวให้กับ Wall Street Journal อยู่นานหลายปี เกี่ยวกับอุตสาหกรรมเหล็ก รถยนต์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
ศ.นพ.เติมชัย ไชยนุวัติ ประธานบริษัท เบอร์ลินฟาร์มาซูติคอลอินดัสตรี้ จำกัด กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่คุณอมาล นาจ ได้เข้ามาร่วมงานกับเรา โดยคุณอมาล จะทำหน้าที่นำบริษัทเบอร์ลิน ให้ก้าวไปสู่การเติบโตอย่างต่อเนื่องขึ้นไป เพราะคุณอมาล เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ และมีความรู้เกี่ยวกับภูมิภาคนี้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยให้บริษัทเบอร์ลิน ประสบความสำเร็จและบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ในระยะยาว ทั้งนี้ บริษัทเบอร์ลินฯ เป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จอย่างมากตั้งแต่อดีตเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และเราจะเดินหน้าต่อไปโดยการนำแนวคิด และกลยุทธ์ใหม่ ๆ มาใช้เพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจท่ามกลาง ความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาสุขภาพ"
คุณอมาล กล่าวว่า “บริษัทเบอร์ลินฯ เป็นหนึ่งในบริษัทยาและเวชภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในประเทศไทย และยืนหยัดอยู่ในฐานะบริษัทชั้นนำของวงการแพทย์มาโดยตลอด และในโอกาสสำคัญนี้ผมรู้สึกมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ บริษัทเบอร์ลินในช่วงที่กระแสการดูแลสุขภาพกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งในภูมิภาคเอเซียและภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก"
คุณอมาล กล่าวเพิ่มเติมว่า “รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ กำลังผลักดันนโยบายเพื่อลดค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ ขณะที่คนไข้ก็ต้องการเข้าถึงการบริการทางการแพทย์และการบริการที่ดีขึ้น ขณะเดียวกัน ยาจำนวนมากสำหรับการบำบัดรักษาโรคต่าง ๆ อาทิเช่น ยาปฏิชีวนะ , ยาแก้ปวด , ยารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด และยารักษาความผิดปกติทางระบบประสาท รวมถึงยาอีกหลายชนิดกำลังจะหมดสิทธิบัตร ทำให้บริษัทยาต่าง ๆ สามารถ ผลิตยาเหล่านี้ได้มากขึ้น โดยมีผลทำให้คนไข้จากเดิมที่ไม่สามารถเข้าถึงยาเหล่านี้ได้มาก่อนมีสิทธิ์ที่จะได้ใช้ยาเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย"
“ถือเป็นโอกาสทองของคนไข้เลยก็ว่าได้ ที่สามารถเข้าถึงยาต่าง ๆ ได้ในราคาเหมาะสม และถือเป็นการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับบริษัทต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีดังเช่น บริษัท เบอร์ลินฯ เป็นบริษัทที่ยอมรับและรู้จักมานาน โดยเน้นด้านการผลิตยาที่ดี มีคุณภาพ ในราคาสมเหตุสมผล" คุณอมาล กล่าว
คุณอมาล กล่าวว่า ทิศทางอุตสาหกรรมยา จะให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาโดยจะเป็นประโยชน์ กับบริษัทยา Generic และในช่วงแรกบริษัทวิจัยและพัฒนายาขนาดใหญ่ได้ก้าวสู่ธุรกิจยาใน แถบเอเซีย เนื่องจากการลงทุนในแผนกวิจัยและพัฒนายาใหม่ของบริษัทเหล่านี้ไม่สามารถ ค้นคว้าหายาที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ได้ โดยที่ผ่านมาเมื่อยาหมดสิทธิบัตรลง บริษัทต่าง ๆ เหล่านี้สามารถผลิตยาออกมาจำหน่ายได้เหมือนกัน โดยในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี ธุรกิจยา ต่าง ๆ จำเป็นจะต้องมีการแข่งขันด้วยราคา ที่ตำกว่า เพื่อตอบสนองต่อรูปแบบธุรกิจยาที่เปลี่ยนแปลงไป