บริษัท เอ็กซอนโมบิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ระบุว่า บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าเป็น 7.56 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.60 ดอลลาร์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 3.95 พันล้านดอลลาร์ หรือ 81 เซ็นต์ต่อหุ้น โดยกำไรไตรมาส 2 ของเอ็กซอนโมบิลซึ่งเป็นการทำกำไรได้สูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2551
ส่วนรายได้โดยรวมเพิ่มขึ้น 24% แตะ 9.25 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำน้ำมันที่สูงขึ้นจากปีก่อน
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า กำไรไตรมาส 2 ของเอ็กซอนโมบิลจะอยู่ที่ 1.46 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากรายได้ทั้งหมด 9.85 หมื่นล้านดอลลาร์
รายงานข่าวระบุว่า เอ็กซอนโมบิลเคยทำกำไรรายไตรมาสได้สูงถึง 1.483 หมื่นล้านดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2551 หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 150 ดอลลาร์ต่อบาเรล แต่ต่อมาเมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้กำไรของบริษัทลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552
ทั้งนี้ เอ็กซอนโมบิลสามารถทำกำไรได้มากกว่าบริษัทคู่แข่งอย่าง บีพี และ เชลล์ เนื่องจากเอ็กซอนโมบิลมีสัดส่วนการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกไม่มากนัก ขณะที่บีพีกำลังประสบปัญหาด้านผลประกอบการเนื่องจากเกิดเหตุระเบิดที่แท่นขุดเจาะน้ำมันจนเป็นเหตุให้น้ำมันจำนวนมากรั่วไหลลงสู่อ่าวเม็กซิโก