จีลี่ โฮลดิงส์ กรุ๊ป (Geely Holdings Group) บริษัทผลิตยานยนต์สัญชาติจีน เสร็จสิ้นการเทคโอเวอร์บริษัท วอลโว่ ซึ่งอยู่ในเครือ ฟอร์ด มอเตอร์ ด้วยมูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในพิธีส่งมอบซึ่งจัดขึ้นที่กรุงลอนดอน ฟอร์ดได้ส่งมอบสินทรัพย์ทั้งหมดของวอลโว่ให้กับจีลี่ หลังจากที่การเทคโอเวอร์ครั้งนี้ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับดูแลทั้งในจีน สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป
หลี่ ฉูฝู ประธานบริษัท จีลี่ กรุ๊ป และ วอลโว่ คาร์ คอร์ปอเรชั่น ให้สัมภาษณ์กับซินหัวผ่านทางโทรศัพท์ว่า เขาตั้งเป้าว่าจะฟื้นฟูวอลโว่ให้กลับขึ้นไปเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์หรูระดับโลกอีกครั้ง
"หลังการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ จีลี่ก็ยังคงเป็นจีลี่ วอลโว่ก็ยังคงเป็นวอลโว่ ความสัมพันธ์ระหว่างสองบริษัทจะเป็นแบบพี่กับน้อง ไม่ใช่แบบพ่อแม่กับลูก" นายหลี่กล่าว
"วอลโว่ควรอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่านี้ในตลาดโลก เมื่อพิจารณาจากคุณภาพ เทคโนโลยี ความสามารถในการวิจัยและพัฒนา รวมถึงคุณค่าของแบรนด์" เขากล่าวเสริม
นายหลี่กล่าวว่าวอลโว่จะยังคงมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน และทีมบริหารจะมีอิสระในการดำเนินแผนธุรกิจต่างๆ ซึ่งหนึ่งในแผนดังกล่าวคือการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในยุโรปและอเมริกาเหนือ ขณะเดียวกันก็หาโอกาสขยายธุรกิจในจีน
นอกจากนั้นจีลี่ยังประกาศแต่งตั้งสมาชิกบอร์ดบริหารของวอลโว่ 6 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นายสเตฟาน จาโคบี ประธานและซีอีโอของ วอลโว่ คาร์ คอร์ปอเรชั่น ขณะที่นายหลี่ ฉูฝู ได้รับตำแหน่งประธานบอร์ดบริหารใหม่ และ ฮันส์-โอลอฟ โอลส์สัน ได้รับตำแหน่งรองประธาน
หุ้นจีลี่ ออโตโมบิล ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง ปรับตัวสูงขึ้น 1.38% แตะที่ 2.94 ดอลลาร์ฮ่องกง (38 เซนต์สหรัฐ) ในช่วงเช้าที่ผ่านมา
นายตง หยาง รองประธานบริหารของสมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีน กล่าวว่า การที่จีลี่ประสบความสำเร็จในการเทคโอเวอร์วอลโว่ เป็นเพียงก้าวแรกในการขยายบริษัท การรักษาคุณค่าของแบรนด์และคุณภาพรถวอลโว่เป็นงานยาก ขณะที่การเพิ่มส่วนแบ่งของวอลโว่ในตลาดจีนและการปรับแบรนด์รถยุโรปให้เข้ากับจีนก็ไม่ง่ายเช่นกัน
"การบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ต้องอาศัยการทำงานอย่างหนักและค่อยเป็นค่อยไป" เขากล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน