ราคาอสังหาริมทรัพย์ในจีนขยายตัวน้อยที่สุดในรอบ 6 เดือนในเดือนกรกฎาคม หลังรัฐบาลใช้มาตรการควบคุมการเก็งกำไรเพื่อป้องกันภาวะฟองสบู่และควบคุมไม่ให้ราคาบ้านสูงเกินไป
โดยไชน่า อินฟอร์เมชั่น นิวส์ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ รายงานว่า ราคาบ้านใน 70 เมืองใหญ่ของจีนขยายตัว 10.3% ในเดือนกรกฎาคมเมื่อเทียบเป็นรายปี
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการธนาคารของจีน (CBRC) กล่าวว่า รัฐบาลจะยังคงใช้นโยบายต่างๆ เพื่อบรรเทาความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์และสกัดกั้นการเก็งกำไร ขณะเดียวกันคณะกรรมการฯ ได้ขอให้ธนาคารพาณิชย์ทำการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) เพื่อวัดผลกระทบของราคาบ้านที่ร่วงลงถึง 60% ในตลาดที่ได้รับผลกระทบหนักสุด
รายงานของไชน่า อินฟอร์เมชั่นระบุว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองซานย่าบนเกาะไหหลำพุ่งสูงสุดในประเทศที่ 50.4% ในเดือนกรกฎาคมเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนในปักกิ่งเพิ่มขึ้น 12.4% และเซี่ยงไฮ้เพิ่มขึ้น 6.8%
ด้านมูลค่ายอดขายอสังหาริมทรัพย์เดือนกรกฎาคมลดลง 19.3% สู่ระดับ 3.066 แสนล้านหยวน (4.53 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สำหรับพื้นที่ที่ขายได้ลดลง 15.4% เหลือ 64.7 ล้านตารางเมตร
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ประกาศใช้มาตรการต่างๆ เพื่อบรรเทาความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ อย่างการเพิ่มเงินดาวน์ขั้นต่ำ ขึ้นดอกเบี้ยสำหรับผู้ซื้อบ้านหลายหลัง และบังคับให้ธนาคารงดปล่อยสินเชื่อให้ผู้ซื้อบ้านหลังที่สามในพื้นที่ที่ราคาบ้านสูงเกินไป