สายการบินสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ (SAS) เผยตัวเลขขาดทุนลดลงในไตรมาส 2 เมื่อเทียบเป็นรายปี อย่างไรก็ตาม ทางสายการบินเชื่อว่าคงพลิกกลับมาทำกำไรได้แล้ว หากไม่เกิดเหตุภูเขาไฟในไอซ์แลนด์ระเบิดและพ่นเถ้าถ่านออกมาเป็นจำนวนมากจนกระทบต่อการบิน
โดยสายการบินมีตัวเลขขาดทุนสุทธิ 502 ล้านโครเนอร์ (68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาส 2 ลดลงจากตัวเลขขาดทุน 1.05 พันล้านโครเนอร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
สำหรับรายได้ของสายการบินอยู่ที่ 9.98 พันล้านโครเนอร์ ลดลงจากระดับ 1.22 หมื่นล้านโครเนอร์ในไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว
ทางสายการบินอ้างว่าน่าจะทำกำไรได้กว่า 400 ล้านโครเนอร์หากไม่เกิดเหตุภูเขาไฟระเบิดในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็ส่งผลกระทบต่อรายได้ของสายการบินหลายแห่งในยุโรป อาทิ บริทิชแอร์เวย์ส และ ลุฟท์ฮันซา เช่นกัน
สายการบิน SAS เปิดเผยว่า ทางสายการบินยังคงให้ความสำคัญกับการลดต้นทุน โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ทางสายการบินสามารถลดต้นทุนได้ 6.7%
SAS ได้ทำการปลดพนักงานไปแล้วหลายพันคน พร้อมทั้งขายสายการบินในเครือหลายแห่งเพื่อให้การทำงานมีความคล่องตัวมากขึ้นและจะได้เน้นไปที่ตลาดแถบสแกนดิเนเวีย ถึงกระนั้นในช่วงครึ่งปีแรกทางสายการบินกลับมีผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างทวีปมากเป็นประวัติการณ์ ทางสายการบินจึงเตรียมเปิดตัวเครื่องบินสำหรับเที่ยวบินที่ต้องบินทางไกลใหม่อีกครั้งจำนวน 1 ลำ เพื่อเพิ่มจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางไปยังเอเชียและสหรัฐอเมริกา และสำหรับแถบสแกนดิเนเวีย ทางสายการบินจะเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินระหว่างเมืองหลวงของแต่ละประเทศในภูมิภาคในเดือนกันยายนนี้