ตลาดหลักทรัพย์ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 979.00 จุด เพิ่มขึ้น 9.72 จุด(+1.00%)มูลค่าการซื้อขาย 38,154.41 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีแกว่งตัวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 979.00 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 968.67 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 187 หลักทรัพย์ ลดลง 169 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 137 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยืนแดนบวกได้ต่อในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยตลาดหุ้นไทยยังได้รับปัจจัยบวกจากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีเข้ามามาก หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นมายืนเหนือระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล
ประกอบกับ Fund Flow ยังไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นไทยอยู่ แต่การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าหลุดระดับ 30 บาท/ดอลลาร์ ทำให้นักลงทุนมีความกังวลว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)อาจจะออกมาตราการควบคุมเงินทุนไหลเข้า ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นไม่มากเท่ากับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค
"เอเชียโดยรวม Fund Flow ยังไหลเข้าอยู่ วันนี้ก็มีแรงซื้อเข้ามาใน Big cap. ทั้งพลังงานและแบงก์ แต่การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าทำให้มีความกังวลว่าแบงก์ชาติจะมีมาตราการออกมา จึงทำให้เราปรับขึ้นน้อยกว่า"น.ส.อาภาภรณ์ กล่าว
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(7 ต.ค.)น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ต้องติดตามดูตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้และราคาน้ำมันดิบว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดฟิวเจอร์สหรือไม่ หากออกมาดีก็คงทำให้ดาวโจนส์และตลาดหุ้นไทยน่าจะยืนบวกได้ต่อ พร้อมให้แนวรับ 970 จุด แนวต้าน 980 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 4,301.56 ล้านบาท ปิดที่ 170.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,584.48 ล้านบาท ปิดที่ 302.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,542.72 ล้านบาท ปิดที่ 742.00 บาท เพิ่มขึ้น 20.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,234.50 ล้านบาท ปิดที่ 17.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,162.49 ล้านบาท ปิดที่ 118.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท