บมจ.สมบูรณ์แอดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ปี 53 เป็นเติบโตสูงถึง 60-70% จากเดิมคาดว่าจะเติบโตกว่า 45% และในแง่ของกำไรสุทธิเชื่อว่าจะเติบโตก้าวกระโดด หลังจากช่วงครึ่งปีแรกผลประกอบการทะลุเป้าไปมาก ตามภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ขยายตัวสูง และในปีหน้าการเติบโตก็น่าจะสูงกว่าภาพรวมที่คาดว่าจะเติบโตราว 20%
นายยงยุทธ กิตะพาณิชย์ รองประธานกรรมการ SAT กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรสุทธิ 300-400 ล้านบาท สูงกว่าทั้งปี 52 ที่มีกำไร 200 ล้านบาท และแนวโน้มครึ่งปีหลังคาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เนื่องจากปริมาณผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพิ่มขึ้น มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และปรับลดต้นทุนวัตถุดิบ รวมถึงการปรับระบบการบริหารงาน เช่น การสั่งซื้อเหล็กที่เป็นวัตถุดิบหลักล่วงหน้า เพื่อบริหารต้นทุน
ปัจจุบัน บริษัทมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าเข้ามาแล้ว 70-80% และยังมีแผนจะขยายตลาดส่งออกเพิ่มจาก 10% เป็น 15-16% เพื่อกระจายความเสี่ยงระยะยาว โดยบริษัทตั้งเป้าขยายสัดส่วนการส่งออกเป็น 30-40% ใน 4-5 ปีข้างหน้า เน้นตลาดประเทศแถบเอเซียและยุโรปเป็นหลัก
นายยงยุทธ กล่าวอีกว่า หากครึ่งหลังของปี 53 บริษัทมีกำไรสุทธิมากกว่าครึ่งปีแรก ก็อาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลมากขึ้น จากที่จ่ายปันผลระหว่างกาลครึ่งปีแรกอัตรา 0.40 บาท/หุ้น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของบริษัทด้วย อย่างไรก็ตาม ในช่วงสิ้นเดือน ต.ค.53 บริษัทจะได้รับเงินจากการเพิ่มทุนจำนวน 600-700 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ลงทุนขยายโรงงาน
สำหรับผลประกอบการปี 54 คาดว่ารายได้รวมของบริษัทจะเติบโตมากกว่าอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ที่คาดว่าจะเติบโต 20% ซึ่งเป็นอัตราที่ชะลอลงจากปี 53 ที่คาดว่าภาพรวมจะเติบโต 50-60% โดยบริษัทจะหันมาขยายตลาดเพิ่มขึ้น รวมถึงการผลิตชิ้นส่วนอื่นๆ เพิ่มขึ้นเพื่อกระจายความเสี่ยง
แต่ในอีก 5 ปีข้างหน้า คาดว่ายอดผลิตรถยนต์ในประเทศจะอยู่ที่ 2.5 ล้านคัน ซึ่งบริษัทก็หวังว่าจะเติบโตเป็นไปตามคาดการณ์
นายยงยุทธ กล่าวว่า เงินบาทที่แข็งค่าในขณะนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากมีการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศมากกว่าการส่งออกสินค้า ดังนั้น แม้เงินบาทแข็งค่าบริษัทก็ยังมีกำไรได้ ประกอบกับ บริษัทได้มีการปรับลดต้นทุน ลดขั้นตอนการผลิต โดยไม่ให้กระทบต่อคุณภาพสินค้า
อย่างไรก็ตาม หากในอนาคตหากเงินบาทแข็งค่ามากขึ้นอีก ก็ยอมรับว่าอาจมีผลกระทบบ้าง หากทำให้ออเดอร์ลดลงก็คงน่ากังวลได้ และอาจทำให้ลูกค้ายื่นข้อเสนอขอส่วนลดในการสั่งซื้อสินค้าได้ แต่ก็เชื่อว่าการแข็งค่าของเงินบาทจะเป็นปัญหาในระยะสั้นเท่านั้น