นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท(PTT)กล่าวว่า บริษัทยังเดินหน้าศึกษาแผนการควบรวมกิจการในเครือที่มีธุรกิจใกล้เคียงกัน 4 บริษัท โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงปลายปี 53 ถึงต้นปี 54 แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะควบรวมกิจการบริษัทใดกับบริษัทใดบ้าง เนื่องจากช่วงเวลาและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ก็อาจจะทำให้ข้อสรุปต่างๆ เปลี่ยนไปได้ด้วย
"ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่า 4 บริษัทในเครือจะจับคู่บริษัทใด เพราะที่ผ่านมา ก็ไม่เคยบอกว่าจะควบรวมบริษัทใด คาดว่าจะสรุปผลการศึกษาในปลายปี 53 ถึงต้นปี 54"นายประเสริฐ กล่าว
สำหรับโรงกลั่นสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) ที่ PTT ถือหุ้นอยู่นั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า บริษัทยังคงยืนยันแนวทางเดิมที่ต้องการให้ SPRC ทำการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป(IPO)โดยเร็วที่สุด ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับกระทรวงพลังงาน แต่เนื่องจาก PTT ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นใหญ่ จึงไม่มีอำนาจในการกำหนด แต่มองว่าภาวะตลาดหุ้นในช่วงนี้ถือว่ามีความเหมาะสมและน่าจะส่งผลดีต่อตัวบริษัท เชื่อว่าจะมีความชัดเจนภายในไตรมาส 1/54
อนึ่ง PTT ถือหุ้นใน SPRC สัด ส่วน 36% รองจาก เชฟรอน ที่ถืออยู่ 46%
นายประเสริฐ กล่าวถึงการเปิดเดินเครื่องโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 6 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบ คาดว่าจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนหน้า แต่ปีนี้คงไม่ได้สร้างรายได้ให้กับบริษัทมากนัก โดยจะเห็นรายได้ขัดเจนในปี 54
อย่างไรก็ตาม แม้โรงแยกก๊าซหน่วยที่ 6 จะเดินเครื่องได้ 100% แต่ประเมินว่าประเทศไทยยังคงจำเป็นต้องนำเข้าก๊าซ LPG กว่า 1 ล้านในปี 54 เนื่องจากราคาขายก๊าซ LPG กับราคาน้ำมันมีความแตกต่างมาก ทำให้ผู้ใช้มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งใช้ในยานยนต์และในภาคครัวเรือน
และ ขณะนี้ ปตท.ยังไม่ได้กำหนดแผนงานในการลงทุนสร้างโรงแยกก๊าซ หน่วยที่ 7 เพราะจะต้องรอดูนโบบายของรัฐบาลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการกำหนดราคาก๊าซในประเทศ
นายประเสริฐ กล่าวถึงราคาน้ำมันในประเทศขณะนี้ที่ล่าสุดปรับขึ้นราคาแม้ว่าเงินบาทแข็งค่าว่า แม้ว่าค่าเงินบาทแข็งค่าแต่ต้นทุนราคาน้ำมันไม่ได้ถูกลง จึงทำให้ค่าการตลาดในช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้อยู่ในระดับต่ำไม่ถึง 1 บาท/ลิตร ทำให้บริษัทอาจต้องพิจารณากันอีกครั้งว่าจำเป็นต้องปรับขึ้นหรือไม่ แต่ก็เชื่อว่าราคาน้ำมันสำเร็จรูปในปีนี้จะอยู่ระดับเกิน 90 เหรียญ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 81 เหรียญ/บาร์เรล