นายพิธาน องค์โฆษิต รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์(KCE)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ผลประกอบการในปี 53 บริษัทยังน่าจะมีกำไรเติบโตได้ถึง 300% จากปี 52 ที่มีกำไร 172 ล้านบาท แม้ว่าล่าสุดจะประเมินว่ายอดขายในปีนี้อาจจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ราว 3%
ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทคาดว่ายอดขายและกำไรในช่วงไตรมาส 4/53 จะชะลอลงจากช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากลูกค้าจะมีการเคลียร์สต็อคสินค้า และยังเกิดปัญหาการ short trade ของ semiconductor ซึ่งจะส่งกระทบต่อภาพรวมในช่วงปลายปีนี้
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/53 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิสูงขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 2/53 ที่มีกำไรสุทธิ 161 ล้านบาท ตามยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้น
"ปี 53 เรายังเชื่อว่าจะมีกำไรโต 300% จากปี 52 ที่กำไรโต 172% แต่ไตรมาส 4/53 อาจจะ slow down เล็กน้อย จากการเคลียร์ stock ของลูกค้า และการ short trade ของ semiconductor ทำให้ทั้งปียอดขายอาจะลดลง 3% จากเป้าที่ตั้งไว้ 240 ล้านเหรียญสหรัฐ"นายพิธาน กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจว่าในปี 54 ยอดขายยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง สาเหตุสำคัญเนื่องมาจากแผนการขยายกำลังการผลิตรวมเพิ่มจาก 1.8 ล้านตารางฟุต/เดือน เป็น 2.05 ล้านตารางฟุต/เดือน ขณะที่การมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ที่คาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายอีกอย่างน้อย 5-10% จากยอดขายที่ได้จากลูกค้าเดิม แต่บริษัทไม่มีแผนการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายโรงงานใหม่
นายพิธาน กล่าวถึงเงินบาทที่แข็งค่าในขณะนี้ว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขาย แต่ส่งผลต่อรายได้ของบริษัท ซึ่งเงินบาทที่แข็งค่าทุก 1% จะกระทบต่อรายได้ 0.3% แต่เนื่องจากบริษัทได้มีการทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน และมีการซื้อขายสินค้าเป็นเงินสกุลยูโร ซึ่งค่าเงินยูโรเมื่อเทียบบาทแข็งค่าไม่มาก ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวไม่มากด้วย