ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งแคบตามภูมิภาค เฝ้าติดตามธปท.ออกมาตรการคุมบาทแข็ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 8, 2010 09:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้น่าจะแกว่ง sideway down ทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค เพราะตลาดฯยังมีความกังวลเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่ากดดันอยู่ โดยขณะนี้ทั้งภูมิภาคและทั่วโลกกำลังเฝ้าติดตามการประชุมเวิลด์แบงก์ การประชุม G20 และการประชุม G7 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ว่าจะมีการออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและแก้ปัญหาค่าเงินอย่างไร

ทั้งนี้ เชื่อว่าหลังจากที่รมว.คลังและผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เดินทางกลับประเทศไทยหลังจากเข้าร่วมประชุมคงมีการออกมาตรการเพื่อเข้ามาดูแลปัญหาค่าเงินบาท แต่เชื่อว่าคงไม่ใช้มาตรการที่รุนแรงเหมือนเมื่อช่วงตอนปี 2006

และแนะให้ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าทางสหรัฐฯจะออกมาตรการ QE เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ ซึ่งหากสหรัฐฯมีการออกมาตรการ QE ก็คงช่วยให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบมากขึ้นและคงเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นไทยเนื่องจากจะมีการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น

พร้อมให้แนวรับ 967,950 จุด แนวต้าน 980 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(7 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,948.58 จุด ลดลง 19.07 จุด(-0.2%)เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,158.06 จุด ลดลง 1.91 จุด(-0.2%) ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,383.67 จุด เพิ่มขึ้น 3.01 จุด(+0.10%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 252.70 ล้านบาท เมื่อ 7 ต.ค.53
  • ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 81.67 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.56 ดอลลาร์
  • 2 กรรมการ กนง."อำพน-พรายพล" ส่งสัญญาณประชุม 20 ต.ค. งัดดอกเบี้ยเพื่อเบรกไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่า ระบุว่าอีกปัจจัยที่บาทแข็งค่ามาจากการเกินดุลการค้า เผยเดือนก.ย.2553 เกินดุลการค้าถึง 3 พันล้านดอลลาร์ แนะรัฐเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเบรกบาทแข็ง "อำพน" ย้ำชัด "ดอกเบี้ย" มีผลต่อเงินทุนไหลเข้า แนะใช้มาตรการเงิน-คลัง ดูแลค่าเงินบาทที่เหมาะสม
  • รมว.พาณิชย์เผยค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วประมาณ 1.5% ตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจาก 30.20-30.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าจนทะลุเกิน 29 บาท ได้กระทบให้รายได้ภาคการส่งออกหายไปแล้วกว่า 6,000 ล้านบาท โดยเป็นการคิดจากยอดการส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ450,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังทำให้กลุ่มผู้ส่งออกเอสเอ็มอี และรายย่อย ปรับตัวไม่ทันและหากไม่มีการช่วยเหลือเยียวยาโดยด่วนจะมีเอสเอ็มอีกว่า 20% ที่ประสบปัญหาดำเนินธุรกิจ
  • บลูมเบิร์กรายงานบทสัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี ที่สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 ต.ค.โดยผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลไทยจะทำตามประเทศบราซิลบังคับเก็บภาษีกับนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาถือครองพันธบัตรและเงินบาทเพื่อจำกัดการไหลเข้าของเงินหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ระบุว่ารัฐบาลไทยกำลังหารือในเรื่องดังกล่าว แต่จะไม่ผูกติดตัวเองกับวิธีการใดวิธีการหนึ่งเพียงอย่างเดียว ไทยได้บทเรียนถึงข้อดีและข้อเสียของการควบคุมการไหลเข้าออกของเงินตราต่างประเทศแล้ว และไม่เห็นด้วยนักกับการใช้วิธีการดังกล่าว
  • กำลังซื้อเพิ่มขึ้นรถโตโยต้าแก้ลำโยกสายการผลิตส่วนเกินให้ซัพพลายเออร์ ช่วยเร่งยอดผลิตหลังตลาดในประเทศ และตลาดส่งออกโตพร้อมกัน ส่งผลการผลิตตึงตัว ขณะที่แผนการลงทุนใหญ่รอตัดสินใจขยายพร้อมโครงการฐานรถเก๋ง และดึงแบรนด์ เลกซัส ประกอบในไทยเป็นโรงงานที่ 3 ในโลก
  • พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ทำหนังสือ 3 ฉบับ ส่งถึงรมว.ยุติธรรม ปลัดกระทรวงยุติธรรม และประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อชี้แจงกรณีถูกนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า พ.ต.อ.ทวีเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดี ดีเอสไอ ตั้งเรื่องสอบสวนคดียุบพรรคประชาธิปัตย์โดยไม่มีอำนาจ เนื่องจากเป็นความผิดตามพ.ร.บ.พรรคการเมือง โดยพ.ต.อ.ทวียืนยันว่าปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายไม่ได้กลั่นแกล้งพรรคประชาธิปัตย์
  • จ่อตะครุบแนวร่วมบึ้มอีก 5 ราย หลักฐานชัดโยง"สมัย" ตื่นพบระเบิดหน้าบ้าน"สามสี" อาร์พีจี 4 ลูกข้างพรรคเพื่อไทย "ปานศิริ-ภาณุพงศ์" นำทีมนักสืบขยายผลรอตะครุบแนวร่วม "สมัย วงศ์สุวรรณ์" มือระเบิดถังดับเพลิง-น้ำยาแอร์ เพิ่ม 4-5 ราย หลังพบหลักฐานชัดเจน มั่นใจ เชื่อมคดีระเบิดอีก 3 แห่ง เชื่อคลี่คลายได้ ส่วนผลตรวจลายนิ้วมือ ย้ำชัด ศพที่ 4 คือ "สมัย"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ