บลจ.ทิสโก้ขายกองทุนเปิด“ทิสโก้ ไซน่า H-Shares อิควิตี้" 11-22 ต.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Sunday October 10, 2010 18:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิดทิสโก้ ไซน่า H-Shares อิควิตี้" (TISCO China H-Shares Equity Fund) นี้มี มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ไม่กำหนดอายุโครงการ เสนอขายตั้งแต่วันที่11-22 ต.ค.2553 สนใจสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 20,000 บาท

โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในบริษัทชั้นนำของประเทศจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนLyxor ETF China Enterprise (HSCEI) (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund) ประเภทกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป มีวัตถุประสงค์สร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Hang Seng China Enterprises

สำหรับภาพรวมการลงทุนในแถบภูมิภาคเอเชีย ยังมีทิศทางการเติบโตแรงต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากเงินลงทุนไหลเข้าของนักลงทุนต่างชาติที่ยังมีแรงผลักดันต่อตลาดหุ้นเอเชีย ซึ่งในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่าดัชนีราคาหุ้นในแถบเอเชียมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 6-8%

อย่างไรก็ตามหากนับตั้งแต่ต้นปีมาตลาดหุ้นจีนยังขึ้นช้ากว่าตลาดเอเชียโดยเฉลี่ย ทั้งๆ ที่การขยายตัวของเศรษฐกิจยังดีอย่างต่อเนื่อง

“แม้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ นักลงทุนยังมีความกังวลว่าเศรษฐกิจจีนอาจเกิดการชะลอตัว อันเนื่องมาจากการที่รัฐบาลใช้มาตรการทางการเงินและการคลังแบบเข้มงวด เพื่อชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ แต่ในทางกลับกันจะเห็นว่ารัฐบาลจีนมองปัญหาการเพิ่มขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ว่าเป็นปัญหาที่ต้องแก้ก่อนที่จะลุกลาม เช่นที่เคยเกิดในสหรัฐฯ ก็อาจจะมองได้ว่าเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการเศรษฐกิจของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะส่งผลทำให้ราคาหุ้นของจีนในปีนี้เพิ่มขึ้นช้ากว่าเพื่อนบ้านก็ตาม ซึ่งจากตัวเลข PMI ล่าสุดของจีนที่ประกาศออกมากสูงกว่าระดับ 50 จุดก็ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลว่ายาที่ให้ไม่ได้แรงจนเกินไปจนทำให้เศรษฐกิจจีนจะถดถอยไปแต่อย่างใด โดยนักวิเคราะห์มองว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนน่าจะขยายตัวเกิน 10% ต่อไป โดยเฉพาะในต้นปีหน้าจะมีปัจจัยบวกที่สำคัญคือการประกาศแผนพัฒนาประเทศ 5 ปี ที่จะส่งผลให้จีนมีการสร้างสาธารณูปโภคที่ดีขึ้น มีการขยายความเจริญไปสู่ชนบท ซึ่งจะสนับสนุนการลงทุนในประเทศของจีนให้ขยายตัวต่อเนื่อง

นอกจากนี้ คาดว่าการบริโภคภายในประเทศของจีนก็น่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ เนื่องจากอัตราค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น สวัสดิการที่ดีขึ้นนั่นเอง"นายธีรนาถ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ