นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB)คาดว่า สินเชื่อในปี 53 เติบโต 7-10% หรือ มูลค่า 7-8 หมื่นล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ จากภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัว และคาดว่ายอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)จะลดลงเหลือ 3.9% ในสิ้นปี 53 ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย(NIM)ตั้งเป้าเฉลี่ยทั้งปีที่ 3.5%
"ทุกอย่างกลับมาฟื้นตัว ตัวเลขเศรษฐกิจก็เติบโตดี การส่งออกก็ดี ภายในก็ดี และการที่บาทแข็งทุกคนก็สามารถปรับตัวได้ สินเชื่อปีนี้ก็เป็นไปตามเป้าเพราะเป็นการเติบโตจากทุกกลุ่ม อย่าง Retail เติบโตดี"นายกรรณิกา กล่าว
สำหรับการขายหุ้น บง.สินอุตสาหกรรม(SICCO) กล่าวว่า บริษัทไม่ได้กำไรจากการขายหุ้น SICCO โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินงานและสามารถบันทึกการขายหุ้น SICCO ได้ในปี 54
นายอาทิตย์ นันทวิทยา รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ SCB กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพการเติบโตของสินเชื่อสูงสุด ขณะนี้มียอดสินเชื่อที่ไม่รวม SME อยู่ที่ 3.8 แสนล้านบาท และคาดว่าจนถึงสิ้นปี 53 จะเป็นไปตามเป้าที่ 4 แสนล้านบาท แต่หากรวมกลุ่ม SME ด้วยปัจจุบันมียอดสินเชื่อที่ 4.2 แสนล้านบาท และจนถึงสิ้นปีจะเป็นไปตามเป้าที่ 4.4 แสนล้านบาท
ในไตรมาส 4/53 จะมียอดขอสินเชื่อจำนวนมากทั้งในส่วนอุตสาหกรรมหนัก เช่น โครงการของรถไฟฟ้า และในปี 54 มองว่าธุรกิจโรงไฟฟ้าในแถบประเทศเพื่อนบ้านจะมีการเติบโตมากขึ้น
"สินเชื่อไตรมาส 4 น่าจะมีออกมาอีกเยอะ มองว่าตัวเลขสินเชื่อปีนี้น่าจะเป็นไปตามเป้า ตอนนี้ก็ใกล้เคียง target แล้ว และปีหน้าน่าจะเติบโตได้ต่อเนื่อง เพราะเรามี deal ทั้งในและนอกประเทศ" นายอาทิตย์ กล่าว
สำหรับเงินบาทที่แข็งค่าที่ระดับ 29 บาท/ดอลลาร์ มองว่าระยะสั้นยังไม่มีผลกระทบไม่มากนัก และลูกค้ากลุ่มผู้ส่งออกมีการปรับตัวได้ดี แต่ระยะยาวเงินบาทที่แข็งค่าอาจจะทำให้ไทยเสียเปรียบความสามารถการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม ณ สิ้นปี 53 มองว่าเงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวที่ระดับ 30 บาท/ดอลลาร์ แต่ยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง โดยให้จับตาดูการเคลื่อนไหวของค่าเงินหยวนของจีน