นายกิตติพงศ์ พฤกษอรุณ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น(AS) คาดว่าการเจรจากับพันธมิตรเพื่อเปิดตลาดการให้บริการเกมออนไลน์ในประเทศอินโดนีเซียอาจจะยังไม่ได้ข้อสรุปภายในปีนี้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ แต่ในปีหน้าน่าจะได้เห็นและทำรายได้เข้ามาเพิ่มขึ้น ส่วนในปีนี้รายได้น่าจะเติบโตตามเป้าหมายมาที่ประมาณ 1.9 พันล้านบาท และกำไรทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
"ตอนนี้ยอมรับว่าพันธมิตรในอินโดนีเซียและการเปิดตลาดใหม่ยังคงต้องใช้เวลาในการเจรจาหวังว่า 2-3 เดือนที่เหลือจะได้ข้อสรุป แต่เบื้องต้นยอมรับว่ากว่าจะเห็นความชัดเจนคงเป็นปีหน้า และสร้างรายได้ที่ชัดเจนให้กับบริษัท โดยบริษัทยังมุ่งตลาดในต่างประเทศ ทั้งเวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปินส์"นายกิตติพงศ์ กล่าว
สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากในประเทศ 70% และต่างประเทศ 30% จากที่คาดว่าปีนี้จะมีรายได้ในปีนี้จำนวน 1.9 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.5 พันล้านบาท ซึ่งส่งผลต่อกำไรสุทธิปีนี้ของบริษัทจะเติบโตเป็นประวัติการณ์และสูงกว่าปีก่อนที่บริษัทมีสถิตกำไรสุทธิสูงสุดมาแล้ว
อนึ่ง AS ประกาศกำไรสุทธิ 178.49 ล้านบาทในปี 52
นอกจากนี้ ในเดือนพ.ย.นี้ จะมีการเปิดตลาดเกมในประเทศเพิ่มอีก 1 เกม โดยปีนี้ตลาดรวมเกมในประเทศอยู่ที่ 3 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ 2.5 พันล้านบาท โดยการเติบโตมาจากการพัฒนาเกมใหม่ๆและมีผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น และทำให้มีผู้เล่นจำนวนเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยปัจจุบันบริษัทมีรายชื่อผู้ลงทะเบียนกับบริษัทจำนวน 19 ล้านไอดี
ล่าสุด AS จับมือกับ บริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด ในการขยายการให้บริการของบัตรเงินสด วัน-ทู-คอล! เข้าไปยังกลุ่มลูกค้า MASS มากยิ่งขึ้น ด้วยการให้ผู้เล่นเกมออนไลน์ของเอเชียซอฟท์ ซึ่งมีจำนวนผู้เล่นเกมมากถึงกว่า 19 ล้านไอดีในปัจจุบันสามารถเติมเงินเกมออนไลน์ได้ทุกเกมด้วยบัตรเงินสด วัน-ทู-คอล!
นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้ให้บริการด้านความบันเทิงออนไลน์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกฉียงใต้ ที่ให้บริการเกมออนไลน์ทั้งในประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม รวมถึงการพัฒนาเกมออนไลน์ การให้บริการโฆษณาออนไลน์ การให้บริการเว็บท่าเกม (Game Portal) www.playpark.com และ การให้บริการเติมเงินออนไลน์ ผ่านระบบเอแคส (@Cash) ที่ให้บริการเกมในเครือเอเชียซอฟท์ทั้งหมด รวมไปถึงเกมพาร์ทเนอร์กว่า 20 เกม จากการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก
"บริษัทฯ จึงไม่หยุดนิ่งที่จะหาบริการใหม่ๆมามอบให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจับมือกับ แอดวานซ์ เอ็มเปย์ ในครั้งนี้ ด้วยการเติมเงินผ่านบัตรเงินสด วัน-ทู-คอล! จะเป็นช่องทางการเติมเงินที่ง่ายและสะดวก สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีกลยุทธ์ในการผลักดันยอดการเติมเงินอย่างต่อเนื่องตลอด 3 เดือนของการเปิดตัวอีกด้วย”
ด้านนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด กล่าวว่า ปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการให้บริการ จำนวน 210-220 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนกว่า 100% ซึ่งการเติบโตผู้ใช้บริการ เอ็มเปย์ในการชำระค่าใช้จ่ายต่างๆและการเติมเงิน 1-2-call ซึ่งการเติบโตของรายได้เป็นตัวเลขสองหลักทุกเดือน ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการจำนวน 7 แสนราย แอคทีฟประมาณ 1 แสนราย