นายทัศพล เบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการบิน สายการบินไทยแอร์เอเชีย คาดว่า บริษัทจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในไตรมาส 2/54 หรือไตรมาส 3/54 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาโครงสร้างต่างๆ โดยตามแผนบริษัทจะระดมทุนเพื่อไปชำระหนี้บริษัท
ส่วนรายได้ในปี 53 มั่นใจว่าจะเติบโต 10% เป็น 1.2 หมื่นล้านบาท และคาดการณ์จำนวนผู้โดยสาร 6.2 ล้านคน ขณะที่ Load factor ปีนี้ คาดว่า 78-79%
และในไตรมาส 4/53 โดยรวมน่าจะดีขึ้นหรือเท่ากับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากนักท่อเงที่ยวเริ่มกลับมาแล้ว
"ตอนนี้นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาแล้ว แต่ในกรุงเทพอาจจะน้อยลง เนื่องจากเขาย้ายไปเที่ยวจังหวัดอื่นแทน อย่างภูเก็ตตอนนี้ก็ค่อนข้างดี" นายทัศพล กล่าว
ขณะที่ผลประกอบการในปีหน้าขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมือง หากไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองเกิดขึ้นก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
สำหรับเงินบาทแข็งค่าส่งผลดีต่อบริษัท เพราะค่าใข้จ่ายบริษัทหรือการชำระหนี้เป็นการจ่ายเงินสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่รายรับเป็ฯเงินบาทสัดส่วน 70% ทำให้บริษัทได้ประโยชน์ตรงนี้
นายทัศพล กล่าวว่า แม้ว่าสายการบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์จะเพิ่มขึ้นมากในอนาคต แต่คาดว่าไม่กระทบบริษัทมากนัก เพราะมองว่าตลาดโลว์คอสต์แอร์ไลน์เป็นตลาดใหญ่ โดยตลาดหลักของสายการบินแอร์เอเชียเน้นภูมิภาคอาเซียนเป็นหลัก รวมจีน และในครั้งนี้มีอินเดียเพิ่มเข้ามา ซึ่งเชื่อว่าส่งผลดีต่อบริษัทในอนาคต
"มองว่าเค้กก้อนนี้ใหญ่พอสำหรับทุกคน ไม่ว่าใครจะเข้ามาก็ไม่น่าส่งผลกระทบต่อเรา" นายทัศพล กล่าว
*เปิด 2 เส้นทางบินใหม่ในอินเดีย เริ่ม 1 ธ.ค.
นายทัศพล กล่าวว่า สายการบินไทยแอร์เอเชียจะเปิดเส้นทางบินใหม่จากกรุงเทพสู่อินเดีย ใน 2 เมือง ได้แก่ เมืองโกลกาตา และ เมืองเดลี เริ่มทำการบิน 1 ธ.ค.53 โดยกรุงเทพ-โกลกาตา ทำการบินทุกวัน ส่วนกรุงเทพ-เดลี ทำการบิน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
เนื่องจากเห็น่วาตลาดอินเดียเป็นตลาดใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก เพราะมีประชากรจำนวนมาก และการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แอร์เอเชียจึงตั้งใจเชื่อมการเดินทางสู่ไทยไปอินเดียให้ง่ายและสะดวกขึ้นผ่านเส้นทางบินใหม่ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ และเป็นการดึงนักท่องเที่ยวอินเดียวเข้าไทยมากขึ้น
"สองเมืองที่เราเลือกนี้ ถือว่าเป็นเมืองใหญ่และสำคัญของอินเดีย เราจึงมั่นใจว่าสองเมืองนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการขยายเส้นทางการบิน และเชื่อมการเดินทางที่ง่ายขึ้นสำหรับบุคคลในอนาคต" นายทัศพล กล่าว
ทั้งนี้ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากอินเดียเข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทยจำนวนมาก โดยปี 52 มีนักท่องเที่ยวอินเดียรวม สูงกว่า 6.1 แสนคน เพิ่มขึ้น 14.45%จากปี 51 อยู่ใน 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวเอเชีย โดยทำรายได้เข้าประเทศไทยกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท
สำหรับเดือน ม.ค.-ส.ค. 53 มีนักท่องเที่ยวอินเดียเข้ามาไทยเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว กว่า 20% ทำให้สายการบินเห็นแนวโน้มการเติบโตที่สดใส จึงได้มีการเปิดเส้นทางบินใหม่นี้ และเชื่อว่าจะมียอดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
บริษัททำการโปรโมชั่น เส้นทางกรุงเทพ-โกลกาตา เริ่มต้นที่ 990 บาท/เที่ยว และ กรุงเทพ-เดลี เริ่มต้นที่ 1,490 บาท /เที่ยว