โบรกเกอร์ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ/เก็งกำไร"บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป(TISCO)หลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/53 กำไร 731 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% yoy แต่ลดลง 4%qoq ถือว่าดีกว่าคาด เนื่องจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสูง สินเชื่อขยายตัวได้ดีในระดับ 9% qoq และ 24%yoy ช่วยชดเชยผลกระทบจาก NIM ที่ลดลงได้
ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรสุทธิปี 53 เติบโตสูง 44-45% มาเป็น 2.85-2.88 พันล้านบาท จากการขยายตัวของสินเชื่อเช่าซื้อเติบโตมากจากยอดขายรถยนต์ แม้ว่าส่วนต่างดอกเบี้ย(NIM)ลดลงไปบ้าง
แต่ปี 54 คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตน้อยกว่าปี 53 เป็นผลจากสินเชื่อชะลอตัวที่ฐานปีนี้สูงขึ้น โดยคาดว่ากำไรจะเติบโต 9-11% และ NIM คงจะปรับตัวลงด้วย
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.บัวหลวง ซื้อ 47.75 บล.กสิกรไทย ซื้อ 46.00 บล.กรุงศรีอยุธยา เก็งกำไร 43.00 บล.ธนชาต ซื้อ - บล.ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 44.00 บล.เกียรตินาคิน ถือ 38.00
นางสาวสิริณัฏฐา เตชะศิริวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ความน่าสนใจเข้าลงทุนใน TISCO จากการขยายตัวสินเชื่อในไตรมาส 3/53 ยังเติบโตต่อเนื่องถึง 9%qoq และเติบโต 24% yoy และคาดว่าทั้งปีสินเชื่อรวมจะขยายตัวอย่างน้อย 25% เทียบกับปีก่อน
แม้ว่าจะมีความกังวลว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย(NIM) จะลดลง แต่เนื่องจากการขยายตัวสินเชื่อเติบโตมาก สามารถชดเชย NIM ที่ลดลงไปได้ นอกจากนี้ยังมีรายได้จากค่าธรรมเนียมได้เพิ่มขึ้นด้วย โดยคาดว่า NIM ปีนี้จะอยู่ที่ 5.0% แต่ปีหน้าคาดว่าจะลดลงมาที่ 4.8%
ส่วนกำไรสุทธิ คาดว่าปี 53 จะเติบโต 45% เป็น 2,888 ล้านบาท แต่ปี 54 การเติบโตน่าจะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 3,209 ล้านบาท หรือเติบโต 11%
"Fair price เราให้ไว้ 46 บาทยังซื้อได้ จุดเด่น TISCO ยังมีสินเชื่อเติบโตสูงมาก และเขาก็มี Target ในช่วง 3 ปีนี้ในการขยายสินเชื่อโต 20% และมี ROE อยู่ 20% ซึ่งในไตรมาส 3/53 มี ROE 21% ซึ่งสูงสุดในระบบ ก็น่าสนใจ" นางสาวสิริณัฏฐา กล่าว
ด้านนายธนัท รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา มองว่า TISCO เป็นหุ้นที่มีสินเชื่อเติบโตดี หนี้เสียดี และงบดุลแข็งแกร่ง แต่เรามองว่าเหตุที่สินเชื่อเติบโตดีมากในปีนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการเติบโตของยอดขายรถยนต์ปีนี้ที่ดีมาก ขณะที่อัตราดอกเบี้ยทรงตัว แต่ก็ทำให้ NIM เริ่มลดลงแม้ว่าสินเชือโต แสดงว่าตลาดสินเชื่อเช่าซื้อขณะนี้แข่งขันกันสูง โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทยลงมาเล่นตลาดนี้ด้วย
ฉะนั้น จึงคาดว่าปีหน้าสินเชื่อเช่าซื้อคงไม่โตมากเหมือนปีนี้ แล้ว yield ก็คงลดลง เพราะการแข่งขันสูง ดังนั้นคาดว่าปีหน้ากำไรคงจะเติบโต แต่คงไม่มากเหมือนปีนี้ โดยในปี 53 คาดว่ากำไรสุทธิเติบโต 43% YoY เป็น 2,850 ล้านบาท ส่วนปี 54 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโต 9% มาที่ 3,100 ล้านบาท
"เรามองว่าแนวโน้มปีหน้า ยอดขายรถยนต์คงไม่โตเหมือนอย่างปีที่นี้ ผมคิดว่ายอดขายรถยนต์ยังดีอยู่ แต่แนวโน้มคงไม่เติบโตมากเหมือนปีนี้ สินเชื่อคงไม่โตมาก สินเชื่อโดยรวม เราคาดว่า 24% แต่ปีหน้าคิดว่าสินเชือ่โต 16% การเติบโตของสินเชื่อชะลอตัวลง และ NIM ก็คงลดลงบ้าง เป็นปัจจัยที่ทำให้กำไรปีหน้าไม่ค่อยโต จึงมองเป็นประเด็นที่เรามองว่าเป็นความเสี่ยง เรื่องการแข่งขัน ก็เลยแนะให้เก็งกำไร เพราะยังมองว่าเติบโตดี แต่กำไรอาจโตชะลอลงแล้ว" นายธนัท กล่าว
ขณะที่ บล.เกียรตินาคิน ระบุว่า ในไตรมาส 3/53 TISCO สามารถปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนมาก โดยสินเชื่อเติบโต 23.9% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 52 จากสิ้นไตรมาสก่อนเติบโต 13.2% ซึ่งสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นทุกประเภท และยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 53 ของ TISCO ไว้ที่ 2,855 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 43.6%YoY จากการปล่อยสินเชื่อเติบโตอย่างโดดเด่น และยังคงเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลระดับสูง
แต่ TISCO จะได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยขาขึ้น และสินเชื่อไตรมาส 4/53 น่าจะไม่ขยายตัวเหมือนใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพคล่องเริ่มตึงตัว และราคาหุ้นนั้นปรับขึ้นมาใกล้กับราคาเหมาะสมที่เราให้ไว้ที่ 38 บาท จึงแนะ"ถือ"