นายยรรยง ไทยเจริญ ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มองว่า การที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีการเก็บภาษี 15%จากกำไรและดอกเบี้ยในพันธบัตรที่ถือโดยนักลงทุนต่างชาติที่เป็นธุรกรรมใหม่นั้น เม็ดเงินลงทุนต่างประเทศยังคงไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทยต่อเนื่อง และไม่ทำให้ค่าเงินมีการอ่อนค่าลง ซึ่งเป็นไปตามทิศทางกับประเทศเกิดใหม่อื่นๆที่มีการออกมาตรการควบคุมเงินไหลเข้าในปีนี้ เช่น เกาหลี บราซิล เกาหลี อินโดนีเซีย ฯลฯ
สำหรับการที่เม็ดเงินลงทุนยังคงไหลเข้าประเทศเกิดใหม่ เนื่องจากประเทศพัฒนาแล้วมีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ทำให้ต้องมีการอัดฉีดเม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจจึงทำให้สภาพคล่องทางการเงินในระบบอยู่ในระดับที่สูง ส่งผลให้เม็ดเงินดังกล่าวต้องหาแหล่งไปลงทุนที่มีผลตอบแทนดี
ดังนั้น เม็ดเงินลงทุนต่างประเทศที่ไหลเข้ามาลงทุนนั้นจะยังคงไหลเข้าลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอยู่จากผลตอบแทนยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจเข้าไปลงทุน แต่อาจจะมีการหันไปลงทุนในพันธบัตรที่มีระยะยาวมากขึ้น
นายยรรยง เชื่อว่า มาตรการดังกล่าวจะเป็นมาตรการที่ออกมาชั่วคราว แต่ภาคธุรกิจจะต้องมีการปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีความแข็งแรงที่จะมีการลงทุนเพิ่มในการซื้อสินค้าต่างประเทศ หรือมีการไปลงทุนในต่างประเทศ
และมาตรการดังกล่าวที่ออกมานั้นเชื่อว่าจะไม่กระทบกับการลงทุนในช่องทางอื่น เช่น ตลาดหุ้น โดยการที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลงในวันนี้คาดว่าอาจจะเป็นเพราะนักลงทุนมีความสับสน และยังไม่เข้าใจกับมาตรการที่ประกาศออกมา จึงตื่นตกใจ