ซิมโฟนี่ฯ พร้อมเข้าตลาดฯสิ้นปี ระดมทุนขยายโครงข่ายครอบคลุมนิคมฯ 11 แห่งปี 56

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 15, 2010 10:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรัณย์พล อัศวสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น คาดว่า บริษัทจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายในปลายปีนี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรอสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาแบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนที่ยื่นเสนอไป

การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนทั้งสิ้น 75,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของทุนชำระแล้วภายหลังเสนอขายหุ้น โดยจะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 3 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่พนักงานของบริษัท ขณะที่หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 72 ล้านหุ้นจะเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ซึ่งการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้มี บล.ธนชาต เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

“ภายในปีนี้น่าจะซื้อขายได้ ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างรอ ก.ล.ต.พิจารณา ที่ผ่านมาเราก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในหลายเรื่องๆแล้วสำหรับการเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้ ทั้งในส่วนของการปรับปรุงระบบภานในต่างๆ รวมถึงการพร้อมเปิดเผยข้อมูล"นายกรัณย์พล กล่าว

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปลงทุนการขยายโครงข่ายเพิ่มเติมโดยเฉพาะการขยายโครงข่ายอินเตอร์เน็ตในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในภาคกลางและภาคตะวันออก 11 แห่ง การลงทุนก่อสร้างศูนย์ปฏิบติการสำรอง การชำระหนี้สถาบันการเงิน และนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท

นายกรัณย์พล กล่าวว่า การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้บริษัทเชื่อว่าจะได้รับความสนใจและตอบรับจากประชาชนทั่วไปเป็นอย่างดี เนื่องจากด้วยพื้นฐานของบริษัทที่มีความมั่นคง มีผลประกอบการที่ดีเติบโตขึ้นในทุก ๆ ปี มีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิในแต่ละปี รวมถึงมีแนวทางการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างจากบริษัทอื่นๆโดยเน้นการให้บริการที่เป็นกลางกับพันธมิตรทุกราย ประกอบกับภาพรวมของธุรกิจในอนาคตก็ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอีกมาก จึงน่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นในครั้งนี้

แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทปีนี้จะเติบโตต่อเนื่องจากปีที่แล้วที่มีรายได้ 540 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ 283 ล้านบาท และเชื่อว่าในครึ่งปีหลังรายได้จะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก ทั้งนี้ การที่รายได้ของบริษัทมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุกๆปีมาจากการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเดิมในการใช้บริการ

“รายได้เราก็ถือว่าโตต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการมาเมื่อปี 50 รายได้ก็ 200 กว่าล้าน ซึ่งก็ไม่เต็มปี เพราะเราเริ่มเปิดเดือนมีนาคมปี 51 และ 52 ก็ 500 กว่าล้าน ปีนี้ครึ่งปีแรกก็มีรายได้ 283 ล้าน ส่วนตอนนี้ก็น่าจะ 500 ล้านแล้ว ถือว่าโตต่อเนื่อง หลักๆ ก็คงมาจากธรรมชาติของธุรกิจที่เป็นการลงทุนเรื่องโครงข่ายเพียงครั้งเตียวแต่สามารถหาลูกค้าไปได้เรื่อยๆ เมื่อลูกค้าเพิ่มมาร์จิ้นก็ดีขึ้นก็ทำให้รายได้โตตาม"นายกรัณย์พล กล่าว

และในอนาคตหากมีการเปิดให้บริการ 3G ขึ้นก็ยิ่งจะช่วยส่งเสริมรายได้ของบริษัทให้เติบโตมากขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยทางตรงนั้นบริษัทก็จะได้ประโยชน์จากการเป็นหนึ่งในตัวเลือกให้กับโอเปอเรเตอร์เจ้าต่างๆที่ไม่มีโครงข่ายเป็นของตัวเองได้เข้ามาใช้บริการ ส่วนทางอ้อมบริษัทก็ยังจะได้ประโยชน์จากผู้ให้บริการคอนเทนท์ที่ต้องมีการขยายความเร็วในการให้บริการให้มากยิ่งขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับระบบ 3G ซึ่งบริษัทก็มีโครงข่ายรองรับอยู่แล้ว

บริษัทมีแผนขยายพื้นที่การให้บริการโครงข่ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันที่โครงข่ายหลักของบริษัทจะครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ในย่านธุรกิจในกรุงเทพฯและปริมณฑลเท่านั้น การขยายพื้นที่การให้บริการเพื่อเป็นการรองรับลูกค้าในอนาคตที่มีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มนิคมอุตสาหกรรมในภาคกลางและตะวันออก 11 แห่ง เบื้องต้นคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุน 120 ล้านบาท

“ในอนาคตเราก็ต้องขยายพื้นที่ให้บริการให้มากขึ้น โดยเฉพาะในนิคมอุตสหกรรมที่ความต้องการยังมีอยู่มากเพราะต้องมีการติดต่อสื่อสารทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยหลักๆก็ต้องมีการใช้อินเตอร์เน็ต ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มขยายไปบ้างแล้วที่นิคมอุตสาหกรรมรอบๆกรุงเทพฯ ซึ่งก็คาดว่าจะครอบคลุมทั้ง 11 แห่ง ได้ในปี 56 "นายกรัณย์พล กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ