โบรกเกอร์แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์(WORK)คาดการณ์กำไรสุทธิในไตรมาส 3/53 เติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY โดยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนน่าจะเติบโตได้สูงกว่า 200% จากยอดขายโฆษณาที่เพิ่มขึ้น รวมรายได้จากภาพยนต์ 2 เรื่องทะลุเป้า ส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 53 ดีกว่าที่คาดไว้
พร้อมประเมินว่าในปี 54 กำไรสุทธิบริษัทจะเติบโตต่อเนื่องจากรายการโทรทัศน์ที่ได้เวลาเพิ่มเข้ามา รวมถึงภาพยนตร์ และคอนเสิร์ต โดยโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ปรับเพิ่มคำแนะนำและปรับราคาเหมาะสมสูงขึ้น เพื่อให้สอดรับกับการฟื้นตัวของกำไรที่แข็งแกร่งขึ้น
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
บล.บัวหลวง ซื้อ 20.00
บล.ฟิลลิป ซื้อ 18.30
บล.กิมเอ็ง ซื้อ 17.70
บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 17.00
น.ส.สุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)มองว่าผลประกอบการไตรมาส 3/53 มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่ากำไรสุทธิน่าจะเพิ่มขึ้นถึง 212% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 43% จากไตรมาสที่แล้ว เป็นไปตามการเติบโตของรายได้จากการผลิตรายการโทรทัศน์ที่สูงขึ้นจากการที่บริษัทสามารถขายโฆษณาได้เพิ่มขึ้น
ประกอบกับ ในไตรมาส 3/53 นี้ บริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจภาพยนตร์เข้ามาอีกถึง 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่อง"ตุ๊กกี้เจ้าหญิงขายกบ"และ"สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก"ที่ถือว่าประสบความสำเร็จและทำรายได้ดี รวมทั้งยังมีรายได้จากการจัดคอนเสิร์ตและแสดงโชว์เข้ามาอีกด้วย
"ผลประกอบการไตรมาส 3/53 ถือว่าดี มีภาพยนตร์เข้ามา 2 เรื่อง ซึ่งทำรายได้ได้ดี เรื่องตุ๊กกี้เจ้าหญิงขายกบทำรายได้จากการฉาย 70 ล้านบาท เรื่องสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารักทำรายได้จากการฉาย 75 ล้านบาท และยังมีรายได้จากการจัดคอนเสิร์ตคุณพระช่วยฯและละครใบ้ด้วย"น.ส.สุทธาทิพย์ กล่าว
ด้านผลประกอบการในไตรมาส 4/53 คาดว่าจะลดลงจากไตรมาส 3/53 เพราะจะไม่มีรายได้จากการฉายภาพยนตร์เข้ามา แต่ทั้งนี้มองว่าผลประกอบการในปี 54 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 54 บริษัทจะได้ผลิตรายการโทรทัศน์เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 3 รายการ และน่าจะมีภาพยนตร์เข้าฉายอีกประมาณ 5 เรื่อง รวมถึงยังมีการจัดแสดงคอนเสิร์ตและการแสดงโชว์ต่างๆเข้ามาเป็นตัวช่วยผลักดันรายได้ในปีหน้า
"เราปรับคำแนะนำ WORK จาก เต็มมูลค่า มาเป็น ซื้อ โดยปรับราคาเหมาะสมเป็น 17.70 บาทอิง PER ที่ 15 เท่า เนื่องจากการปรับประมาณการกำไรขึ้นสะท้อนการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งและแนวโน้มการขยายตัวต่อเนื่องจากธุรกิจโทรทัศน์ซึ่งมีเวลาออกอากาศเพิ่มขึ้นและมีอัตราการใช้เวลาโฆษณาสูงขึ้นจากอุตสาหกรรมโฆษณาที่เติบโตและเรทติ้งรายการที่ดีขึ้น ขณะที่ธุรกิจผลิตภาพยนตร์และจัดการแสดงได้รับการตอบรับดีทำให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น บริษัทยังมีฐานะการเงินแข็งแกร่งไม่มีหนี้สิน"
นายดิษฐนพ วัธนเวคิน นักวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ผลประกอบการของ WORK ในปีนี้น่าจะเติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมา ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวทำให้มีเม็ดเงินโฆษณาเข้ามาในรายการต่างๆมากขึ้น และบริษัทยังได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการต่างๆเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ชมมากยิ่งขึ้น และในปีนี้ภาพยนตร์ทั้ง 3 เรื่องของบริษัทได้แก่ โป๊ะแตก , ตุ๊กกี้ เจ้าหญิงขายกบ และสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก ต่างก็ประสบความสำเร็จและทำรายได้ค่อนข้างสูง
"ผลประกอบการไตรมาส 3/53 น่าจะเติบโตดี รายการโทรทัศน์ก็มีโฆษณามากขึ้น ภาพยนตร์ก็ประสบความสำเร็จทำรายได้ค่อนข้างดี ก็คาดว่ารายได้รวมไตรมาส 3/53 น่าจะอยู่ที่ 399 ล้านบาท ก็ถือว่าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 61% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว 33% รายได้ทั้งปี ก็น่าจะเพิ่มจากปีที่แล้ว"นายดิษฐนพ กล่าว
บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) คาดว่า ผลประกอบการของ WORK ในไตรมาส 3/53 จะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 270.76% เป็น 84.20 ล้านบาท จากรายได้โทรทัศน์และคอนเสิร์ต/โชว์เพิ่มขึ้น รวมกับความสำเร็จจากภาพยนตร์ที่เข้าฉาย 2 เรื่อง
ทั้งปี 53 ปรับคาดการณ์กำไรสุทธิจาก 133.43 ล้านบาท เป็น 215.34 ล้านบาท จากธุรกิจต่าง ๆ ของบริษัทที่ฟื้นตัวขึ้น โดยในไตรมาส 4/53 จะมีรายการใหม่และโชว์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้น
ส่วนในปี 54 คาดจะมีรายการเพิ่มขึ้น 4-6 รายการ, ผลิตภาพยนตร์ 5 เรื่อง และคอนเสิร์ต/โชว์ 12 โชว์ คาดรายได้รวมเพิ่มขึ้น 17.71% และกำไรสุทธิโต 21.31% เป็น 261.22 ล้านบาท อิง P/E จาก 12 เท่า เป็น 14 เท่า ตามการฟื้นตัวของกำไร ราคาพื้นฐานปี 54 อยู่ ที่ 18.30 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นจาก “ถือ”เป็น “ซื้อ”