นายธนพิศาล คูหาเปรมกิจ กรรมการและที่ปรึกษา บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์(GBX) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าล้างขาดทุนสะสมให้หมดในปีนี้ ซึ่งปัจจุบันมีขาดทุนสะสมอยู่ 50 ล้านบาท แต่เงื่อนไขที่จะสามารถล้างขาทุนดสะสมได้ก็คือ GBX จะต้องมีกำไรราว 18-20 ล้านบาท และบริษัทลูกคือ บล.โกลเบล็ก(GBS) จะต้องมีกำไร 80 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งบริษัทก็หวังว่าน่าจะได้มากกว่านั้น
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการช่วงครึ่งแรกของปีนี้ GBX ยังมีผลขาดทุน 29 ล้านบาท แต่คาดว่าผลประกอบการในครึ่งหลังน่าจะดีขึ้น โดยคาดว่ากำไรจากธุรกิจทองคำปีนี้น่าจะอยู่ที่ 18-20 ล้านบาท ซึ่งช่วงนี้มูลค่าการซื้อขายทองคำมีผลตอบแทนสูงขึ้น ตามทิศทางราคาทองคำที่สูงขึ้น แต่การแข่งขันรุนแรงดังนั้นอัตรากำไรก็อาจจะลดลงบ้าง
แต่ทั้งนี้ ภาพรวมก็ถือว่าได้ตามเป้าหมาย เพราะมีมูลค่าการซื้อขายมากขึ้น ทำให้บริษัทน่าจะมีกำไรได้ตามเป้า
นายธนพิศาล กล่าว บริษัทยังเปิดกว้างสำหรับการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุนใน บล.โกลเบล็กหรือการควบรวมกิจการ จะเป็นโบรกเดอร์ต่างชาติหรือในภูมิภาคก็ได้ เพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนการส่งคำสั่งซื้อขายกับต่างประเทศ เคาะซื้อขายในกระดานเทรดของประเทศต่าง ๆ โดยคุณสมบัติขึ้นอยู่กับเจรจาแล้วมีผลประโยชน์ร่วมกัน
"แผนควบรวมบล.ก็มีความเป็นไปได้ถ้า win-win แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการดีลกับใครแต่เราก็เปิดกว้าง ที่สนใจก็น่า"นายธรพิศาล กล่าว
ส่วนการนำ บล.โกลเบล็กเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น นายธนพิศาล กล่าวว่า คงต้องรองบการเงินงวดปี 53 นี้ออกมาก่อน หากมีกำไรตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ก็อาจจะพิจารณายื่นไฟลิ่งต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
นายธนพิศาล ยังให้ความเห็นถึงทิศทางราคาทองคำในตลาดโลกว่า จากนี้ถึงปลายปีน่าจะมีการพักฐานก่อน ช่วงนี้แนะชะลอการลงทุน เพราะราคาปรับขึ้นไปสูงแล้ว จึงอาจมีการขายทำกำไรออกมา โดยเฉพาะจากกลุ่มกองทุน เหมือนกับปี 52 ราคาขึ้นไป 1,224 ดอลลาร์/ออนซ์ ก็คาดกันว่าน่าจะไปต่อ แต่เมื่อถึงปลายก็ลงมา 100 กว่าดอลลาร์ ถือว่าพักฐานใหญ่พอควรก่อนปรับขึ้นแรงอีกทีใน 3-4 เดือน ซึ่งหลายคนมองราคาจะไปถึง 1,400-1,500 ดอลลาร์/ออนซ์ได้ในอนาคต
"มองว่าน่าจะพักฐานใหญ่พอควรก่อนถึงปลายปี แต่ก็ลงทุนยาวไปถึงปีหน้าได้เพราะ target อยู่ที่ 1400-1500 ดอลลาร์ ประกอบกับช่วงปลายปีคาดว่าจะมีคนขายทำกำไรทองก่อน เช่นพวก hedge fund ก็อยากเห็น target return เพราะเป็นช่วงปิดงบฯ จึงน่าจะเห็นการพักฐานทำกำไร"นายธนพิศาล กล่าว
ส่วนราคาทองคำในประเทศ ยังไม่น่าจะได้เห็นที่บาทละ 2 หมื่นบาท เพราะค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น แต่หากราคาทองในตลาดโลกปรับตัวขึ้นไปจากนี้อีก 40-50 ดอลลาร์/ออนซ์ ก็เป็นไปได้