นายธนกฤต เจตกิตติโชค กรรมการ บริษัท ปาร์คกิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้รับสัมปทานประกอบกิจการบริหารจัดการอาคาร และลานจอดรถหน้าอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า วันนี้บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. ได้นำเจ้าหน้าที่เข้ามาบุกยึดสำนักงานควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ และรื้อระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับบริหารจัดเก็บค่าจอดรถที่บริษัทปาร์คกิ้งฯ ติดตั้งไว้ ซึ่งมีผลให้บริษัทได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท
ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวของทอท. เป็นการบอกเลิกสัญญาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่เป็นไปตามเงื่อนไขสัญญาของการบอกเลิกสัญญาที่ต้องแจ้งให้บริษัทปาร์คกิ้งฯ ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน
ดังนั้น ภายในสัปดาห์หน้าบริษัทปาร์คกิ้งฯ จะได้ยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อขอความคุ้มครองฉุกเฉินกรณีที่ทอท.ยกเลิกสัญญา และจะเรียกเงินชดเชยความเสียหายจากทอท.เป็นเงินประมาณ 560 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทปาร์คกิ้งฯ สูญรายได้จากการดำเนินการตามสัญญาที่ตกลงไว้ว่าบริษัทจะมีรายได้ 25% ของยอดรายได้ ตลอดอายุสัญญา 5 ปี
นายธนกฤต ยืนยันว่า บริษัทปาร์คกิ้งฯ ไม่ได้ดำเนินการผิดสัญญา เพราะ ทอท.ได้รับเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนครบทุกเดือน รวม 5 เดือน คิดเป็นเงินกว่า 100 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.53 นายธรรศ พจนประพันธ์ กรรมการบริษัทปาร์คกิ้งฯ จ่ายเช็คและแคชเชียรเช็คให้ทอท.เป็นเงินประมาณ 20 ล้านบาท ต่อมาทอท.มีการหักเงินค้ำประกันซองประมาณ 20 ล้านบาท และหักเงินค้ำประกันสัญญาประมาณ 66 ล้านบท
แต่อย่างไรก็ตาม การรับเงินบางส่วนก็ไม่ถูกต้อง เช่น ทอท.ไม่มีสิทธิ์หักเงินค้ำประกันซอง หรือรับเงินจากนายธรรศ เพราะเป็นเงินในนามส่วนตัวไม่ใช่ในนามบริษัทปาร์คกิ้งฯ
แหล่งข่าวจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ของ ทอท.ฝ่ายรักษาความปลอดภัยและฝ่ายกฎหมาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ราชาเทวะ ประมาณ 30-40 คน ได้ร่วมรื้อย้ายและเป็นสักขีพยานในการเข้ารื้อย้ายอุปกรณ์บริเวณตู้เก็บเงินอาคารและลานจอดรถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจาก ทอท.ต้องการเข้าครอบครองพื้นที่เพื่อดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์การจัดเก็บค่าจอดรถ หลังจากที่ได้ทำหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญากับบริษัทปาร์คกิ้งฯ ครบกำหนด 7 วัน ซึ่งการรื้อย้ายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย