นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันแล้ว 70%ของปริมารการใช้ และจะยังทำต่อเนื่องไปถึงสิ้นปีนี้ในระดับ 70% จากปีที่แล้วทำประกันในระดับ 30% เนื่องจากมองว่าภาะวราคาน้ำมันช่วงนี้ยังสามารถทำประกันความเสี่ยงล่วงหน้าได้
และ การทำประกันความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอจะเกิดผลดีต่อต้นทุนน้ำมันของบริษัทมากกว่าการไม่ดำเนินการอะไรเหมือนช่วงปี 51 ซึ่งมีการทำประกันความเสี่ยงเพียง 15% และในปี 52 ราคาน้ำมันตกต่ำมาอยู่ระดับ 35 เหรียญ/บาร์เรล กลับไม่มีการทำประกันความเสี่ยงเลย ทำให้บริษัทประสบปัญหาขาดทุน
"ตอนนี้ราคาน้ำมัน แม้ว่าจะแพงขึ้น แต่การที่ค่าเงินบาทแข็งค่า กลับส่งผลดีต่อราคาน้ำมันอากาศยานที่ราคาถูกกว่าน้ำมันสำเร็จรูป ทำให้เป็นผลดีกับบริษัท แต่การป้องกันความเสี่ยงก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่จะไม่สร้างปัญหาในอนาคต ซึ่งช้วงที่เหลือของปีนี้ก็ยังจะทำ 70% ต่อเนื่อง" นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ต้นทุนน้ำมันเป็นต้นทุนหลักของ THAI ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีปัญหาขาดทุนจำนวนมากเมื่อปี 51 ดังนั้น บริษัทควรมีการควบคุมและดูแลการป้องกันความเสี่ยงเพื่อไม่ให้บริษัทมีปัญหาเหมือนช่วงที่ผ่านมา
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI กล่าวถึงการเติบโตของบริษัท ยังเน้นการสร้างรายได้ โดยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากการนำธุรกิจโลว์คอสต์แอร์ไลน์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท ซึ่งบริษัทมีแผนจัดตั้งสายการบินไทย ไทเกอร์แอร์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ และเชื่อมั่นว่าส่วนแบ่งตลาดที่การบินไทยถูกสายการบินโลว์คอสต์อื่นแย่งไปจะได้กลับคืนมา
และในอนาคต เชื่อมั่นว่าจะได้เห็นราคาหุ้น THAI ที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น โดยนับตั้งแต้วันที่เข้ารับตำแหน่ง (15 ต.ค.52) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 6 เท่า ดังนั้น การที่มีโบรกเกอร์คาดการณ์ว่าจะได้เห็นราคาเหมาะสมของการบินไทยที่ 57บาท เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ในอนาคต