นายสรรพัชญ์ รัตคาม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ควอลลีเทค(QLT)เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/53 ของบริษัทคาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นกว่าไตรมาส 2/53 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และปัญหาโครงการมาบตาพุดที่เริ่มคลี่คลายตามลำดับ ส่งผลให้ลูกค้าทั้งรายเก่า และรายใหม่เริ่มมีความเชื่อมั่น และกลับเข้ามาใช้บริการงานทดสอบ และตรวจสอบงานด้านวิศวกรรมเพิ่มขึ้น
“ภาพรวมของผลประกอบการไตรมาส 3/53 จะเติบโตดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก 53 ตามที่คาดการณ์ไว้ ตามการขยายตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน หลังจากที่เริ่มเห็นสัญญาณของภาวะเศรษฐกิจ และการลงทุนฟื้นตัวดีขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าหลัก ๆ เริ่มกลับมาใช้บริการเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน,ปิโตรเคมี,โรงงาน กลุ่มชิ้นส่วนส่งออก ,กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง รวมทั้งกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ"นายสรรพัชญ์ กล่าว
นอกจากนี้ การที่ปตท.และบางจาก ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของบริษัทมีแผนขยายโครงการลงทุนใหม่ ๆ เพิ่มเติมในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปี 53 เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อบริษัท โดยช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าประมูลงานใหม่ ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้บริษัทมีมูลค่างานในมือ(Backlog) เพิ่มขึ้นด้วย จากปัจจุบันที่มีอยู่มากกว่า 300 ล้านบาท โดยคาดว่ารายได้ทั้งปี 53 จะเติบโตตามเป้าใกล้เคียงกับปี 52 ที่มีรายได้อยู่ที่ 279.71 ล้านบาท
“ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมพลังงาน การสร้างคลังน้ำมัน คลังก๊าซ ต่างมีความต้องการใช้บริการงานด้านทดสอบ และตรวจสอบทางวิศวกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดคุณภาพ และความปลอดภัยให้มากที่สุด คาดว่าธุรกิจดังกล่าวยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง“นายสรรพัชญ์ กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากงานในประเทศ 95 % และต่างประเทศ 5 % โดยมีฐานลูกค้ากลุ่มหลัก ๆ ในกลุ่มปิโตรเคมี พลังงาน และก๊าซ ได้แก่ ESSO, UNIMIT, CHEVRON, IRPC, SCG, STECON, EGCO Group, Thaioil รวมทั้งกลุ่มบริษัทในเครือปตท.เป็นต้น