บมจ.ช.การช่าง (CK) คาดว่า เซ็นสัญญางานสร้างเขื่อนไซยะบุรีคงจะเลื่อนออกไปเป็นราวเดือน ก.พ.-มี.ค.54 จากเดิมคาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ภายในปีนี้ โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร 4-5 รายทั้งในประเทศและต่างประเทศที่สนใจเข้าร่วมทุนในโครงการดังกล่าว ขณะที่ CK จะยังคงรักษาสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการไม่ต่ำกว่า 30%
"คงเลื่อนออกไป 2-3 เดือน คิดว่า ก.พ.-มี.ค.54 จะเซ็นสัญญาได้"นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ CK กล่าว
ทั้งนี้ โครงการสร้างเขื่อนพลังน้ำไซยะบุรี จะมีการเซ็นสัญญาเงินกู้ วงเงิน 8 หมื่นล้านบาท จาก ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 แห่ง คือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ และ บริษัทจะมีการเซ็นสัญญางานก่อสร้างโครงการ มูลค่ากว่า 7 หมื่นล้านบาท
ขณะนี้มีพันธมิตรจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ 4-5 รายเจรจาขอร่วมทุนกับบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ ที่ก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรี โดย CK ยืนยันที่จะถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 30% ดังนั้น ในปี 54 งานในมือ(backlog)ของ CK จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนล้านบาท จากปัจจุบันมีงานในมือแล้ว 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งรวมโครงการสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินแล้ว
นายปลิว กล่าวว่า ในไตรมาส 3/53 บริษัทจะพลิกกลับมามีกำไร จากการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่มีความคืบหน้า หลังจากที่ช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีผลประกอบการขาดทุน เนื่องจากได้มีการปรับตัวเลขกำไรจากโครงการเขื่อนน้ำงึม จากเดิมที่คาดว่าจะมีกำไรสูง จึงบันทึกผลกำไรไว้สูง แต่ภายหลังได้มีการปรับลดลง
และไตรมาส 4/53 คาดว่าบริษัทจะมีกำไรสูงขึ้น และอาจมีกำไรสูงกว่าปี 52 หากโครงการเขื่อนน้ำงึม 2 สามารถเดินเครื่องในเชิงพาณิชย์ไม่เกิน ธ.ค.53
อย่างไรก็ตาม ในปี 53 คาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิน้อยกว่าปี 52