นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป(CWT)ประกาศปี 53 Turnaround หลังรุกตลาดเบาะหนังรถยนต์ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ คาดยอดขายปีนี้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1 พันล้านบาท รอทบทวนตัวเลขให้ชัดในเดือนพ.ย.คาดปรับเป้าเพิ่มอีก 10-20% และพลิกฟื้นมามีกำไรได้ ไม่นับรวมกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้กว่า 100 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน 107 ล้านบาท
ขณะเดียวกันบริษัทยังหาออร์เดอร์ใหม่ป้อนต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างเจรจาค่ายอีซูซุและมิตซูมิชิ คาดได้งานไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท สรุปได้ในช่วง ม.ค.-ก.พ.54 และยังมีออเดอร์ในมือล่วงหน้า 3 ปี ตกปีละ 600 ล้านบาท มั่นใจปี 54 ผลประกอบการสดใสแน่
"ยอดขายตั้งเป้าไว้พันล้านบาท แต่ในปลายเดือนต.ค. หรือต้นเดือนพ.ย.จะทำแผนธุรกิจใหม่ ว่าจะทบทวนตัวเลขยอดขายใหม่ โดยแนวโน้มปรับเพิ่มจากออเดอร์ใหม่ และ กำลังการผลิตที่ยังเหลืออยู่ คงจะเพิ่มจาก 1 พันล้านบาทอีก 10-20% คงสรุปได้ปลายเดือน พ.ย." นายวีระพล กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
อนึ่ง CWT รายงานผลประกอบการปี 52 มียอดขาย 756 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งแรกของปี 53 มียอดขายแล้ว 570 ล้านบาท
นายวีระพล คาดว่า ปีนี้บริษัทจะสามารถพลิกกลับมามีกำไร จากปีก่อนที่มีผลขาดทุน 107 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นกำไรที่มาจาก 2 ส่วน คือ กำไรจากการดำเนินงาน และ กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ที่คาดว่าจะมีประมาณกว่า 100 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ยอมรับว่ากำไรจากการดำเนินงานอาจยังไม่ค่อยดี แม้ว่ายอดขายเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัญหาต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น โดยเฉพาะหนังที่นำเข้ามีราคาสูงขึ้น 30-40% และยังปรับราคาขายไม่ได้
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/53 จะมีรายการพิเศษจากกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งจะไม่เท่ากับไตรมาส 2/53 โดยมีกำไรในส่วนนี้ประมาณ 50 ล้านบาท แต่ในด้านกำไรจากการดำเนินงานเป็นบวก เนื่องจากยอดขายทำได้ดีกว่าไตรมาส 2/53 และช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากออร์เดอร์ที่มีเข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ในไตรมาสนี้เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี
"ยอดขายปีนี้ดีกว่า โดย 3 ปีนี้ทยอยดีขึ้น เป็นผลจากออเดอร์เข้ามาเรื่อยๆ แต่คาดว่าไตรมาส 4/53 อาจจะเงียบ แต่ไตรมาส 3/53 จะพีคสุด และเห็นใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยถึง 85% ส่วนไตรมาส 1-2 ใช้กำลังการผลิตเฉลี่ย 70-75% ทั้งปี ก็จะใกล้ระดับ 80%"นายวีระพล กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือที่เป็นออร์เดอร์ล่วงหน้า 2-3 ปี มูลค่างานปีละประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งมาจาก 3 ลูกค้าหลัก ได้แก่ ฮอนด้า อีซูซุ และ โตโยต้า
นายวีระพล เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาค่ายอีซูซุและมิตซูบิชิที่มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์ คาดว่าจะมีมูลค่าออร์เดอร์อย่างน้อย 100 ล้านบาท ซึ่งการเจรจาจะมีข้อสรุปภายในเดือน ม.ค.-ก.พ.54 จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้ยอดขายปี 54 สูงกว่าปี 53
อย่างไรก็ดี CWT ไม่ได้อิงรายได้จากการทำเบาะหนังรถยนต์อย่างเดียว แต่ยังมีธุรกิจเฟอร์นิเจอร์หนัง และ ของเล่นสุนัข รวมสัดส่วนคิดเป็น 30% ของรายได้ รวม ขณะที่เบาะหนังรถยนต์มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 70%
นายวีระพล กล่าวถึงภาระขาดทุนสะสมประมาณ 200 ล้านบาทว่า บริษัทคาดว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมให้ได้ภายในปี 54 หลังจากนั้นจึงจะจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้
"ผมมีหน้าที่จะล้างขาดทุนสะสม 2 ปีนี้ จบที่ 54 ก็น่าจะโอเค"นายวีระพล กล่าว