นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานกองทุนรวมตั้งแต่ต้นปีถึง 15 ต.ค.53 มีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกองทุนหุ้นอยู่ที่ 38% สูงกว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้น 35%
และเมื่อวัดผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี กองทุนหุ้นให้ผลตอบแทน 42% แต่ดัชนีเพิ่มขึ้น 39% และเมื่อวัดผลย้อนหลัง 5 ปีจะเห็นกองทุนหุ้นให้ผลอตอบแทน 85% ไม่นับรวม กองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) และ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยเพิ มขึ้น 45%
"ตลาดหุ้นตอนนี้ใกล้ 1 พันจุด โดยแตะ 999 จุด มองว่าอะไรที่ใกล้ถึงจุดระดับจิตวิทยาก็มีการเทขายทำกำไรออกมาก่อน หลายคนมอง upside gain น้อยกว่า downside แล้ว ถ้าจะเอากำไรก่อนก็จะขายหุ้นออกมา ซึ่งเป็นระดับจิตวิทยาการลงทุน แต่ถ้ามองในแง่ปัจจัยพื้นฐานของประเทศก็โอเค จีดีพีที่ 6% กว่า เป็นระดับเศรษฐกิจที่ดีมาก ปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจโอเคถึงมีอุปสรรคก็หาทางแก้ได้
ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานบริษัทจดทะเบียนยังดีอยู่ แต่ก็ต้องดูราคาหุ้นแต่ละตัวว่า Full value หรือยัง ตอนนี้ถ้าจะเข้าก็เลือกหุ้นรายตัวได้ แต่กองทุนตราสารหนี้ยังเน้นมีสภาพคล่องมากกว่า"นางวรวรรณ กล่าว
นางวรวรรณ กล่าวว่า ผู้ถือหน่วยกองทุนส่วนใหญ่ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้มากกว่ากองทุนที่ลงทุนในหุ้น โดยมีสัดส่วน 63% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ทั้งอุตสาหกรรมกองทุนรวม จำนวน 1.928 ล้านล้านบาท (ณ วันที่ 15 ต.ค.) เพราะนักลงทุนยังกลัวความเสี่ยงในหุ้นมากกว่า ทั้งนี้ ส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในกองทุนหุ้น 20% กองทุนผสม 3% กองทุนอสังหาริมทรัพย์ 4% ที่เหลืออื่นๆ
อนึ่ง จำนวนผู้ลงทุน ณ 30 มิ.ย.53 อยู่ที่ 2.4 ล้านบัญชี แยกตามประเภทหลักทรัพย์ที่ลงทุน แบ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ 1.20 ล้านบัญชี กองทุนหุ้น 9.5 แสนบัญชี กองทุนผสม 1.8 แสนบีญชี และ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ 35,352 บัญชี