ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างไม่คาดคิดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ซึ่งมาตรการดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาสภาพคล่องในภาคธนาคารของสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าแบงค์ ออฟ อเมริกา กำลังถูกบีบให้ซื้อคืนตราสารหนี้จำนองมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 165.07 จุด หรือ 1.48% ปิดที่ 10,978.62 จุด ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 18.81 จุด หรือ 1.59% ปิดที่ 1,165.90 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 43.71 จุด หรือ 1.76% ปิดที่ 2,436.95 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 9.83 พันล้านหุ้น โดยทั้งสองตลาดมีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วนเกือบ 5 ต่อ 1
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 11,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 สัปดาห์ เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวลงหลังจากธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก 0.25% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพุธที่ 20 ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกของจีนนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2550
แบงก์ชาติจีนระบุในแถลงการณ์ซึ่งเผยแพร่บนเว็บไซต์ว่า อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 1 ปี จะเพิ่มขึ้นจาก 2.25% เป็น 2.50% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 1 ปีจะเพิ่มขึ้นจาก 5.31% เป็น 5.56%
การตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบเหนือความคาดหมายของธนาคารกลางจีนส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ซึ่งทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ดิ่งลงอย่างหนัก และยังฉุดราคาน้ำมันดิบ NYMEX ดิ่งลงไปอยู่ต่ำกว่าระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากข่าวที่ว่า แปซิฟิก อินเวสเมนท์ แมเนจเมนท์ (พิมโค) ธนาคารแบล็คร็อค และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก กำลังบีบให้แบงค์ ออฟ อเมริกา ซื้อคืนตราสารหนี้จำนองมูลค่าสูงถึง 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ตราสารหนี้ดังกล่าวออกโดยคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทการเงินที่แบงค์ ออฟ อเมริกาได้เข้าซื้อกิจการไปเมื่อปี 2551
ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ปิดร่วง 4.4% ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปิดบวก 1.9% ส่วนหุ้นแอปเปิลปิดร่วง 2.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายผลิตภัณฑ์ iPad ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4 ของแอปเปิล
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 0.3% แตะระดับ 610,000 หลัง/ปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 580,000 หลัง/ปี
แต่ตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างในเดือนก.ย.ร่วงลง 5.6% มาอยู่ที่ระดับ 539,000 ยูนิต ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 580,000 ยูนิต
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ ธนาคารกลางสหรัฐจะเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่คอนเฟอเรนซ์บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ย. และธนาคารกลางสหรัฐสาขาฟิลาเดลเฟียจะเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนต.ค. ส่วนวันศุกร์ ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ