ทริส ทบทวนอันดับเครดิตองค์กร NOBLE ที่ BBB+ แนวโน้ม Stable

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 20, 2010 08:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศผลการทบทวนอันดับเครดิตองค์กรของ บมจ. โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) ทีระดับ “BBB+" ด้วยแนวโน้ม “Stable" หรือ “คงที่"

อันดับเครดิตสะท้อนถึงแบรนด์ของบริษัท ซึ่งเป็นที่ยอมรับในตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงบน ตลอดจนกลยุทธ์การสร้างความแตกต่างของสินค้าและคอนโดมิเนียมที่รอการส่งมอบจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม การประเมินอันดับเครดิตยังคำนึงถึงอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทที่จะเพิ่มสูงขึ้นใน 2-3 ปีข้างหน้าจากการลงทุนจำนวนมากในอนาคต ตลอดจนสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศที่ยังไม่มีเสถียรภาพ ลักษณะของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลง และการแข่งขันในการซื้อที่ดินที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable" หรือ “คงที่" สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะทางการเงินที่น่าพอใจเอาไว้ได้ในระยะปานกลาง แม้การแข่งขันในตลาดคอนโดมิเนียมจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น แต่บริษัทก็ควรจะรักษาความสามารถในการกำไรให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ รวมทั้งรักษาระดับกระแสเงินสดและอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนให้อยู่ที่ระดับปัจจุบันเอาไว้แม้บริษัทจะต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากในการก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมหลายโครงการซึ่งรวมถึงโครงการที่เพลินจิต

NOBLE เป็นผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางซึ่งก่อตั้งในปี 34 ณ สิ้นเดือน ส.ค.53 บริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัย 17 โครงการ ด้วยมูลค่าเหลือขายประมาณ 5,000 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทมียอดขายที่รอการส่งมอบในช่วงปลายปี 53-57 จำนวนมากถึงประมาณ 7,000 ล้านบาท ที่อยู่อาศัยในโครงการของบริษัทประกอบด้วยคอนโดมิเนียมซึ่งคิดเป็น 64% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด บ้านเดี่ยว 21% ทาวน์เฮ้าส์ 10% และที่ดินเปล่า 5% การออกแบบที่อยู่อาศัยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวทำให้โครงการของบริษัทแตกต่างไปจากผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่น

ช่วง 6 เดือนแรกของปี 53 รายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 12% เป็น 1,426 ล้านบาท จาก 1,272 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 52 เนื่องจากการรับรู้รายได้ตามความคืบหน้าของงานก่อสร้างคอนโดมิเนียมที่มากขึ้นและจากยอดขายบ้านเดี่ยวสร้างเสร็จพร้อมขายที่เพิ่มขึ้น ฐานะการเงินของบริษัทในช่วง 2 ไตรมาส/53 ดีขึ้นอย่างมากโดยสาเหตุหลักมาจากการโอนคอนโดมิเนียมโครงการ “โนเบิล รีมิกซ์" และ “โนเบิล โซโล" มูลค่ารวม 3,356 ล้านบาท ทำให้อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมเท่ากับ 36.23% (ยังไม่ได้ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี) เพิ่มขึ้นจาก 8.39% ในปี 52

ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านภาษีของรัฐบาลจากการโอนโครงการคอนโดมิเนียมภายในเดือน มิ.ย. 53 กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วในช่วงครึ่งแรกของปี 53 ของบริษัทที่ 33.23% นั้นสูงกว่าระดับ 19.51% ในปี 52 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนก็ดีขึ้นเป็น 40.42% ณ สิ้นเดือน มิ.ย.53 ลดลงจาก 46.97% ณ สิ้นปี 52 แม้ฐานะการเงินของบริษัทในช่วง 6 เดือนแรกของปี 53 จะดีกว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แต่บริษัทก็ยังจำเป็นจะต้องรักษากระแสเงินสดจากการดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่แน่นอนเอาไว้ให้ได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ