ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 14.01 จุด เหตุไร้ปัจจัยใหม่หนุน-นลท.รอผลประชุมจี20

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday October 23, 2010 05:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) ขณะที่บรรยากาศการซื้อขายซบเซา เนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำหลักที่ช่วยผลักดันให้ตลาดเคลื่อนไหว นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูแถลงการณ์การประชุมรมว.คลังและผู้ว่าการแบงก์ชาติกลุ่มจี20 ในประเด็นที่เกี่ยวกับค่าเงิน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 14.01 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 11,132.56 จุด ขณะที่ ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 2.82 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 1,183.08 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 19.72 จุด หรือ 0. 80% ปิดที่ 2,479.39 จุด

นักวิเคราะห์กล่าวว่า หุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ตลอดการซื้อขาย เนื่องจากไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ อีกทั้งมีบริษัทสหรัฐเพียงไม่กี่แห่งที่เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึง เวอไรซอน ผู้ให้บริการโทรศัพท์รายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ที่มีกำไรร่วงลง 24% แตะ 881 ล้านดอลลาร์ หรือ 31 เซนต์ต่อหุ้น จากระดับ 1.18 พันล้านดอลลาร์ หรือ 41 เซนต์ต่อหุ้นในปีที่แล้ว

โดยหุ้นเวอไรซอนปิดลบ 1.3% ขณะที่หุ้นอเมริกันเอ็กซ์เพรสร่วงหนักสุดที่ 3.1% หลังระบุว่า บริษัทยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเดินหน้าขึ้นคึกคัก เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากบรรดาผู้ผลิตชิป แซนดิสก์บวก 1% หลังจากที่บริษัทผู้ผลิตเมโมรีชิปเผยกำไรไตรมาส 3 พุ่ง 39% ขณะที่หุ้นอเมซอนและไป่ตู้เพิ่มขึ้น 2.6% และ 4.68% ตามลำดับ เนื่องจากผลกำไรของทั้งสองบริษัทดีกว่าการคาดการณ์ของตลาด

อเมซอนดอทคอม อิงค์ เผยกำไรเดือนก.ค.-ก.ย. เพิ่มขึ้น 16% แตะ 231 ล้านดอลลาร์ หรือ 51 เซนต์ต่อหุ้น จากระดับ 199 ล้านดอลลาร์ หรือ 45 เซนต์ต่อหุ้นในปีก่อน สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์อยู่ที่ 48 เซนต์ ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ที่ทะยานขึ้น 39% แตะ 7.56 พันล้านดอลลาร์

ด้าน ไป่ตู้ดอทคอม อิงค์ ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดเสิร์ชเอ็นจินในจีนถึง 70% เผยกำไรไตรมาส 3 พุ่ง 112% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 156.4 ล้านดอลลาร์ หรือ 45 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 41 เซนต์ ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้น 76.4% จากปีที่แล้ว แตะ 337.2 ล้านดอลลาร์ ส่วนในไตรมาส 4 นั้น ไป่ตู้คาดว่าจะสามารถทำรายได้สูงขึ้นมาอยู่ที่ 354.2 - 364.7 ล้านดอลลาร์

ในส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนกันยายนมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในเกือบทุกรัฐ โดย 23 รัฐ และวอชิงตัน ดีซี มีอัตราว่างงานลดลง ขณะที่ 11 รัฐเพิ่มขึ้น และ 16 รัฐไม่เปลี่ยนแปลง

รัฐที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฟองสบู่ในตลาดที่อยู่อาศัยมากที่สุด อย่าง ฟลอริดา และ แคลิฟอร์เนีย ยังคงมีอัตราว่างงานสูงในระดับตัวเลขสองหลัก ขณะที่ เนวาดา ซึ่งมีอัตราว่างงานอยู่ที่ 14.4% ยังคงเป็นรัฐที่มีอัตราว่างงานสูงสุดในประเทศ

ทั้งนี้ ความวิตกเกี่ยวกับค่าเงินมีผลต่อตลาดหุ้นในวันศุกร์ ขณะที่รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่มจี20 กำลังประชุมกันที่ประเทศเกาหลีใต้

ในการประชุมช่วงเย็นวานนี้ นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐ ได้เสนอให้ประเทศสมาชิกจำกัดยอดเกินดุลหรือขาดดุลบัญชีเดินสะพัดให้อยู่ที่ 4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) แต่ข้อเสนอดังกล่าวถูกปฏิเสธจากญี่ปุ่นและเยอรมนี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ