ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) หลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาด อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค.ของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 5.41 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 11,169.46 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 0.02 จุด ปิดที่ 1,185.64 และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 6.44 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 2,497.29 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กและ Nasdaq มีอยู่เพียง โดยมีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 4 ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50.2 จุด จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 48.6 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 49.2 จุด
อย่างไรก็ตาม วอลุ่มการซื้อขายมีอยู่เพียงเบาบาง ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่มีท่าทีระมัดระวังก่อนที่การประชุมเฟดจะมีขึ้นในวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ และก่อนที่การเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐจะมีขึ้นในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค.ที่ร่วงลงในสหรัฐ และการที่นักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการในภาคเอกชน รวมถึงผลประกอบการของธนาคารยูบีเอส
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค.ใน 20 ขตเมืองของสหรัฐ ลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับเดือนก.ค. หลังจากนโยบายลดหย่อนภาษีแก่ผู้ซื้อบ้านหมดอายุลง ซึ่งสวนทางกับในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาที่ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐมีธุรกรรมการซื้อขายที่คึกคักเพราะได้แรงหนุนจากนโยบายลดหย่อนภาษีแก่ผู้ซื้อบ้าน แต่นโยบายดังกล่าวได้หมดอายุลงแล้วในช่วงปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
หุ้นธนาคารยูบีเอสร่วงลง 5.25% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นแตะ 1.65 พันล้านดอลลาร์ สวนทางกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วธนาคารขาดทุน 564 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม กำไรไตรมาส 3 ของยูบีเอสยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้
ขณะที่หุ้นดูปองท์ดิ่งลง 1% แม้บริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 ที่ปรับตัวสูงขึ้นเกินคาดและยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายปี 2553 ก็ตาม ส่วนหุ้นฟอร์ด มอร์เตอร์ ปิดบวก 1.48% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรรายมาส 3 ที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 6 ไตรมาส
นักลงทุนจับตาดูการประชุมเฟดในวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ โดยมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0-0.25% และอาจจะประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินผ่านการซื้อพันธบัตร
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันวันพุธ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจในนิวยอร์กซิตี้เดือนต.ค.