ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกมาตรการเฟด ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 43.18 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 28, 2010 06:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจมีวงเงินน้อยกว่าและดำเนินการล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังต่อรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่สะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตของสหรัฐยังคงชะลอตัว

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 43.18 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 11,126.28 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 3.19 จุด หรือ 0.27% แตะที่ 1,182.45 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 5.97 จุด หรือ 0.24% แตะที่ 2,503.26 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2 ต่อ 1

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่ามูลค่าของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่เฟดมีแนวโน้มว่าจะประกาศใช้นั้น อาจมีวงเงินน้อยกว่าหรือล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยเมื่อไม่นานมานี้มีการคาดการณ์ว่า เฟดจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์ ถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่ออัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบและฉุดอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์ให้ปรับตัวลดลง อีกทั้งเป็นการกระตุ้นการปล่อยเงินกู้และการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจให้ไหลเวียนดีขึ้น

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนก.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.2% เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของยอดสั่งซื้อเครื่องจักร เครื่องบินและชิ้นส่วนเครื่องบิน แต่หากไม่นับรวมยอดสั่งซื้อในหมวดการขนส่ง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.ลดลง 8.8% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตของสหรัฐยังคงชะลอตัวและอาจจะฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐให้ล่าช้าออกไปอีก

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะการชะลอตัวของภาคการผลิตและความไม่แน่นอนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟด ได้ส่งผลบดบังรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 6.6% แตะระดับ 307,000 ยูนิต/ปี จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 288,000 ยูนิต/ปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 300,000 ยูนิต

หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นสวนทางกับการปิดลบของดัชนีดาวโจนส์ โดยหุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกัน ปิดบวก 2.1% ส่วนหุ้นเมอร์ค แอนด์ โค ปิดร่วง 1.6% หุ้นพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ปิดบวก 22 เซนต์ ปิดที่ 63.08 ดอลลาร์ และหุ้นสปรินท์ เน็กซ์เทล ปิดร่วง 9.9%

นักลงทุนจับตาดูการประชุมเฟดในวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ โดยมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0-0.25% นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจในนิวยอร์กซิตี้เดือนต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ