นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอเชียกรีน (AGE) คาดว่า รายได้และยอดขายในปี 2554 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปีนี้รายได้จะได้ตามเป้าหมายที่ 2.5-2.6 พันล้านบาท และยอดขายถ่านหินที่ 1.2 ล้านตัน
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนการลงทุนในการสร้างคลังสินค้าและท่าเรือ โดยเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถสรุปแผนการลงทุนที่ชัดเจนในช่วงต้นปี 2554 ซึ่งเบื้องต้นจะสร้างที่สมุทรสาคร
สำหรับรายได้ในช่วงไตรมาส 4/53 คาดว่าจะดีกว่าในไตรมาส 3/53 เนื่องจากมียอดขายถ่านหินในประเทศจีนจำนวน 3 หมื่นตัน ในช่วงเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการเปิดตลาดการส่งออกถ่านหินเป็นครั้งแรก และปีหน้าคาดว่าจะมียอดการส่งออกถ่านหินประมาณ 3-4 แสนตัน และสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 20-30% จากรายได้รวม ซึ่งตลาดส่งออกในจีนมีศักยภาพสูง นอกจากนี้ ญี่ปุ่น และอินเดีย ที่ศึกษาการส่งออก
ทั้งนี้บริษัท รับซื้อถ่านหินจากแหล่งในประเทศอินโดนีเซีย เดิมจำนวน 3-4 แหล่ง และมีการเพิ่มจำนวนแหล่งเป็น 7-8 แหล่งเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการที่สินค้าขาดแคลน ซึ่งสัญญาระยะยาวประมาณ 1 ปี ประมาณ 50% ของสัญญาทั้งหมด สำหรับราคาถ่านหินที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลกบริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนักเพราะมีการขายราคาตามจริง
“กำไรขั้นต้นปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10% ใกล้เคียงปีก่อน แม้ว่าต้นทุนสูงขึ้นบ้าง แต่เราก็ไม่มีการล็อคราคากับลูกค้ามีการปรับเพิ่มขึ้นตามจริงได้ และราคาขายถ่านหินในประเทศก็ปรับเพิ่มต่อเนื่อง ตอนนี้จะอยู่ที่ 2,800-3,000 บาทต่อตันสูงกว่าต้นปีที่ประมาณ 2,500-2,600 บาท”นายพนม กล่าว
นอกจากนี้การที่ราคาหุ้น AGE ปรับเพิ่มขึ้นวานนี้ ถือเป็นราคาสูงขึ้นนับตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์มาทั้งนี้น่าจะมาจากการที่หุ้นกลุ่มถ่านหินได้รับความสนใจและส่วนหนึ่งจากผลประกอบการของบรษัทที่คาดว่าจะออกมาดี