นายนพดล ธรรมวัฒนะ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.บีจีที คอร์ปอเรชั่น(BGT)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศมีกระทบต่อยอดขายของบริษัทในช่วงไตรมาส 4/53 โดยสาขาที่เปิดขายตามปกติก็มียอดขายลดลง เช่นที่ จ.นครราชสีมา
แต่สถานการณ์หนักสุดคือสาขาที่หาดใหญ่ ซึ่งเกิดน้ำท่วมฉับพลันและรุนแรงในขณะนี้ ส่งผลให้บริษัทต้องปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าไดอาน่าและดีพาร์ทเม้นท์สโตร์อื่นๆ รวม 4-5 สาขา ซึ่งยังประเมินผลกระทบไม่ได้และจะต้องปิดทำการไปนานเท่าใด แต่ปกติยอดขายที่หาดใหญ่ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก เพราะมีกลุ่มลูกค้าจากมาเลเซียเข้าซื้อสินค้าค่อนข้างมาก
"ไตรมาส 4 คงมีผลกระทบจากเรื่องกระแสน้ำท่วม แต่ในสาขาอื่นทุกสาขายอดขายน่าจะโตขึ้น แต่ตอนนี้จากปัญหาน้ำท่วมก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น จะกระทบอีกกี่จังหวัด อย่างวันนี้ที่หาดใหญ่ร้านค้าในห้างสรรพสินค้าต้องปิดไปตั้งแต่เมื่อวาน 17.00 น.ประมาณ 4-5 สาขา วันนี้ให้พนักงานแสตนด์บายอยู่ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ส่วนที่โคราชร้านค้าของเราอยู่ในห้างเดอะมอลล์มีผลกระทบต่อยอดขายแน่นอน แต่ที่โคราชไม่ถึงกับปิดสาขา ตอนนี้กำลังอัพเดทกันอยู่"นายนพดล กล่าว
*มั่นใจทั้งปียอดขายยังโตเกินเป้า เหตุ 3 ไตรมาสแรกทำดีกว่าคาด
อย่างไรก็ตาม นายนพดล เชื่อว่า แม้ยอดขายไตรมาส 4/53 จะได้รับผลกระทบ แต่คงจะไม่ส่งผลถึงภาพรวมรายได้ในปีนี้ เพราะทุกไตรมาสที่ผ่านมาทำได้ดีเกินกว่าที่คาดหวังไว้ และเชื่อมั่นว่าไตรมาส 3/53 ทั้งรายได้และกำไรจะออกมาดีกว่าไตรมาส 2/53 ค่อนข้างมาก
รวมทั้งบริษัทได้รับผลดีจากเงินบาทที่แข็งค่าด้วยอีกส่วนหนึ่ง เพราะบริษัทมีส่วนที่ต้องนำเข้าสินค้าแบรนด์จากต่างประเทศเข้ามาจำหน่าย ซึ่งจะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
"ไตรมาส 3 คาดทั้งรายได้และกำไรสูงกว่าไตรมาส 2/53 แนวโน้มดีกว่ามาก จากเศรษฐกิจฟื้นยอดขายเพิ่มขึ้นโดยยอดขายโตขึ้นจากทั้งสาขาเดิมและสาขาใหม่ที่ทยอยขึ้นด้วย"นายนพดล กล่าว
บริษัทเชื่อมั่นว่ารายได้ทั้งปี 53 น่าจะทำได้เกินเป้าหมายที่คาดว่าจะเติบโต 10-15% เนื่องจากผลประกอบการในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ทั้งรายได้และกำไรเติบโตกว่า 30% แล้ว โดยครึ่งปีแรกทำรายได้ 386 ล้านบาท และไตรมาส 3/53 ทั้งรายได้และกำไรก็ดีกว่าไตรมาส 2/53 เป็นการเติบโตทั้งยอดขายในสาขาเดิม และจากการเปิดสาขาใหม่ ซึ่งบริษัทยังมีแผนเปิดสาขาต่อเนื่องในปีหน้า
"ปีนี้ตั้งเป้ารายได้โต 10-15% จากปีก่อนที่ 666 ล้านบาท แต่เชื่อว่า ณ วันนี้ จะมากกว่านั้นเยอะถึงแม้น้ำท่วมกระทบบ้าง เนื่องจากสาขาเรามีกระจายทั่วประเทศ แต่จังหวัดที่มีปัญหาน้ำท่วมก็แน่นอนกระทบยอดขาย ปัจจุบันมี 128 สาขาและคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีนี้น่าจะได้เห็น 140 สาขา และปี 54 ก็ยังจะเปิดสาขาเพิ่มอีก โดยยอดขายที่จะเพิ่มขึ้นในปีนี้ มาจากทั้งยอดขายสาขาเดิมของ Body Glove และสาขาใหม่ที่ทยอยเข้ามา"นายนพดล กล่าว
ส่วนแผนธุรกิจในการขยายตลาดในประเทศฟิลิปปินส์และเวียดนามนั้น นายนพดล กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถเดินหน้าได้ เพราะที่ผ่านมาติดปัญหาเรื่องเครื่องหมายการค้า เนื่องจากมึคนไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า"Body Glove"ไว้ในประเทศฟิลิปปินส์ ตอนนี้กำลังจัดการแก้ไขปัญหา หากเรื่องนี้จบบริษัทก็ความพร้อมทุกด้านที่จะเดินหน้าได้ทันที เพราะได้เซ็น MOU กับลูกค้าในฟิลืปปินส์ก็เรียบร้อยแล้ว