นายสุภกิจ วรรธนะดิษฐ์ หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านการพาณิชยฺ์ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด ในเครือ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE) คาดว่าในปี 53 บริษัทจะมีรายได้จากนอน-วอยซ์ เป็น 20% ดีกว่าปีก่อน โดยครึ่งปีแรกมีสัดส่วนแล้ว 15% ของรายได้รวม เป็นผลจากการเติบโตของเครื่องสมาร์ทโฟน ซึ่งมีการใช้ข้อมูล DATA มากขึ้นรวมถึงการใช้แอพพลิเคชั่นมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทประเมินว่ายอดขายสมาร์ทโฟนจะสร้างรายได้ให้ 12% ของรายได้รวม และช่วยเพิ่มลูกค้ารายเดือน (โพสต์เพด)อีก 5-6% โดยในส่วนสมาร์ทโฟน ส่วนใหญ่เป็นยอดขายของ iPhone ซึ่งมียอดขายประมาณ 1 แสนเครื่อง จากตลาดรวมทีมียอดขายมากกว่า 3 แสนเครื่อง โดยทรูมูฟคาดว่ายอดขายสมาร์ทโฟนปีนี้จะเติบโต 20%
"แนวโน้มไตรมาส 3/53 เรารู้ว่ารายได้โพสต์เพด ของเราเติบโตเป็นอันดับหนึ่งจากจำนวนลูกค้าที่เราเพิ่มขึ้น และ ARPU เราก็เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/53 ที่มี 480 บาท/เดือน"นายสุภกิจ กล่าว
ทั่งนี้ ยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นของทรู ตั้งแต่ม.ค.-ก.ย.53 สูงถึง 1 ล้านครั้ง และคาดว่ายอดรวมทั้งปี 53 ประมาณ 1.5-2.0 ล้านครั้ง คิดเป็นเป็นมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ทั้งนี้ในส่วนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนมือถือจะอยู่ภายใต้บริษัท ทรู ดิจิตอล คอนเทนท์ แอนด์ มีเดีย จำกัด(True App Center)
นายสุภกิจ กล่าวว่า การพัฒนาแอพพลิชั่นใหม่จะเป็นส่วนเสริมยอดขาย iPhone และการใช้ DATA บางตัว ซึ่งทางทรูมูฟในปีนี้ได้ขยายการลงทุนโครงข่ายในส่วน DATA เพิ่มขึ้นและจะลงทุนต่อเนื่องไปในปีหน้า
ในวันนี้ True App Center ได้เปิดเตัว 12 แอพพลิเคชั่นใหม่สำหรับกลุ่ม Family & Kids โดยจับมือกับบ นานมี บุ๊คส์ และ อัษรา ฟอร์ คิดส์ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 9 แอพพลิเคชั่น
นอกจากนี้ นายสุภกิจ ยังกล่าวว่า เหตุการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ 12 จังหวัดขณะนี้ คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เพราะลูกค้าไม่สามารถออกมาเติมเงิน หรือดีลเลอร์ไม่สามารถเปิดขายได้ แต่ยังประเมินตัวเลขไม่ได้ จึงยังไม่ทราบว่าจะส่งผลต่อผลประกอบการไตรมาส 4/53 มากน้อยอย่างไร แต่ขณะนี้ได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าสามารถโทรศัพท์มือถือได้ก่อน
สำหรับลูกค้าพรีเพดจะเพิ่มวันใช้งานเพิ่มอีก 30 วัน ส่วนลูกค้าโพสต์เพดจะงดเว้นการระงับสัญญาณลูกค้าที่ไมสามารถชำระค่าบริการได้ตามกำหนด รวมทั้งจะรถโมบายเพื่อเพิ่มเซลไซท์ในบริเวณที่มีความเสียหายมาก