Merrill Lynch(ML)แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 21.6 บาท/หุ้น เนื่องจากประกาศผลกำไรงวดไตรมาส 3/53 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และ GRM ทรงตัว แต่ต้นทุนต่อหน่วยยังสูงอยู่?
บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ทยอยสะสม"หุ้น BCP ให้ราคาเหมาะสม 18.80 บาท เนื่องจากยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เพราะเชื่อว่ามาตรการ QE2 ที่จะได้ข้อสรุปในคืนนี้น่าจะไม่ต่ำกว่า US$5.0 แสนล้าน ซึ่งน่าจะเอื้อให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง พร้อมกับแรงเก็งกำไรต่อความต้องการใช้น้ำมันของสหรัฐฯ จะไม่หดตัวลงแรงในระยะกลาง จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟดคืนนี้
นอกจากนี้ BCP รายงานกำไรสุทธิ 3Q53 ทำได้ทั้งสิ้น 507 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% qoq หรือผ่านจุดต่ำสุดของผลการดำเนินงานไปแล้ว โดยโครงการ Product quality improvement (PQI) เปิดโครงการไปตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตในไตรมาสนี้กลับมาดีขึ้นเป็น 73% (88 พันบาร์เรล/วัน) จาก 68.1% (81.7 พันบาร์เรล/วัน) ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ค่าการกลั่นปกติไตรมาสนี้ดีขึ้นเป็น 5.28 เหรียญ/บาร์เรล จาก 3.32 เหรียญ/บาร์เรลในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
แนวโน้ม 4Q53 คาดว่าจะมีกำไรดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามการฟื้นตัวของค่าการกลั่นและปริมาณการกลั่นที่เพิ่มสูงขึ้นหลังเปลี่ยนมาเป็น complex refinery แม้ผลกำไร 9 เดือนแรกที่บริษัททำกำไรได้ 1,724 ล้านบาท จะคิดเป็นแค่ 68% ของประมาณการผลกำไรรวมทั้งปีที่ 2,527 ล้านบาท หรือ 1.92 บาท/หุ้น แต่การฟื้นตัวของผลกำไรใน 4Q53 ก็ทำให้เชื่อว่าผลกำไรปีนี้จะเป็นไปตามที่ประเมินไว้ได้ไม่ยากนัก
หากเทียบราคาปิด ณ วานนี้กับหุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่วิเคราะห์ด้านปัจจัยพื้นฐานอยู่จะพบว่า BCP ซื้อขาย PER10-11 ต่ำที่สุดเพียง 8.23x และ 7.56x ตามลำดับเท่านั้น บวกกับผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 5.7% ต่อปี และราคา ณ ปัจจุบันเทียบกับ BVPS ณ สิ้นปี 2553 ที่คาดไว้ที่ 20.60 บาท ทำให้ BCP ดูมีความน่าสนใจต่อการลงทุน เมื่อเทียบกับ TOP และ PTTAR ที่ซื้อขาย P/BVPS ปี 2553 ที่ 1.61x และ 1.57x ตามลำดับ
วานนี้(2 พ.ย.)หุ้น BCP ปิดที่ 15.80 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 70.78 ล้านบาท