บมจ.ไดนาสตี้เซรามิค(DCC)คาดยอดขายกระเบื้องไตรมาส 4/53 เติบโตสูงกว่าระดับปกติ และยังจะดีต่อเนื่องในปี 54 ส่วนหนึ่งมาจากการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังจากอุทกภัยหลายจังหวัดคลี่คลายลง โดยขณะนี้ออร์เดอร์เริ่มทยอยเข้ามาแล้ว ขณะที่กำไรช่วงท้ายปีดีตามอัตรากำไรขั้นต้นที่ทุบสถิติ ทั้งปีมั่นใจกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตามที่เคยคาดไว้ ส่วนปี 54 ตั้งเป้ารายได้รวมโต 10% เตรียมปรับลดราคาขายแข่งขันในตลาด
นายมารุต แสงศาสตรา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ(Chief Information Officer) DCC เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า รายได้และกำไรในไตรมาส 4/53 น่าจะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จะเติบโตราว 19% จากไตรมาส 4/52 ถือว่าสูงกว่าระดับปกติ ขณะที่กำไรสุทธิน่าจะทำได้ดีตามอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดว่าจะทำได้สูงสุดในระดับ 47% หรือใกล้เคียง
"ไตรมาส 4/53 คาดว่ากำไรสุทธิน่าจะสูงกว่าไตรมาส 3 แน่นอน และถ้าเป็น gross margin น่าจะสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ประมาณ 47% หรือใกล้เคียง จากไตรมาส 3/53 ที่ 45.7%"นายมารุต กล่าว
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ยอดขายช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีออกมาดี เป็นเพราะสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ทำให้ต้องมีการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังจากน้ำลด ซึ่งขณะนี้เริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามาในบางจังหวัดที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายลงไปแล้ว เช่น ชุมชนมิตรภาพ และที่ จ.ชัยภูมิ
สำหรับผลประกอบการทั้งปี 53 ตั้งเป้ารายได้รวมโต 16% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 5,904 ล้านบาท โดย 9 เดือนมียอดขายแล้ว 5,031 ล้านบาท มาจากออร์เดอร์ที่เพิ่มขึ้น และกำลังการผลิตของบริษัทก็ยังเพียงพอที่จะรองรับได้ เพราะเตรียมจะเปิดเตาใหม่อีก 1 เตาก่อนสิ้นปีนี้ จากก่อนหน้าเปิดไป 3 เตาแล้ว ต้นปีหน้าอีก 1 เตา และกลางปี 54 อีก 1 เตา
ปัจจุบัน กำลังการผลิตอยู่ที่ 4.8 ล้านตร.ม./เดือน เมื่อถึงต้นปี 54 จะเพิ่มเป็น 5 ล้าน ตร.ม./เดือน (60 ล้านตร.ม./ปี) และกลางปี 54 จะเป็น 5.3 ล้าน ตร.ม./เดือน
ในแง่ของกำไรสุทธิทั้งปี 53 น่าจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยคาดว่าจะเติบโตกว่า 22% เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะอยู่ที่ประมาณ 46% ซึ่งในงวด 9 เดือน อยู่ที่ 44.4% แล้ว สูงกว่างวดเดียวกันปีก่อนที่อยู่ในระดับ 42.7% เป็นผลจากกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นทำให้เกิด Economy of scale โดยเฉพาะต้นทุนคงที่ต่างๆ ลดลง บวกราคาขายที่ปรับเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี
"เชื่อว่าไตรมาส 4 ยอดขายจะสูงแน่นอน แต่คงสู้ไตรมาส 1 ไม่ได้เพราะไตรมาส 1 เป็นฤดูกาลขาย และกำไรสุทธิปีนี้โตกว่าปีก่อน เพราะตอนนี้กำไรก็โตกว่า 22% แล้ว เมื่อถึงสิ้นปีก็น่าจะโตประมาณนี้ ปีนี้คาดว่าจะเป็นปีที่กำไรสุทธิจะสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ด้วย"นายมารุต กล่าว
อย่างไรก็ตาม ไตรมาส 4/53 คงจะปรับเพิ่มราคาขายไม่ได้เพราะเป็นช่วงที่ต้องบุกตลาดมากกว่า และปี 54 มีแผนจะปรับราคาขายลดลง 1-2 บาท/ตร.ม.เพราะต้องการแข่งขันในตลาด แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบกับรายได้และกำไรปีหน้า เพราะบริษัทได้มีการเปิดเตาเพิ่มอีก 2 เตา จากปีนี้เปิดไปแล้ว 4 เตา ซึ่งจะทำให้ต้นทุนลดลงไปอีก เฉลี่ยเตาละ 1 บาท/ตร.ม.
"คู่แข่งขันก็มีปรับลดราคาบ้าง แต่เราไม่ได้ปรับตาม แต่เราจะไปสู้กับเค้ามากกว่า ปีนี้เรามีโอกาสที่จะเพิ่มราคาขายก็เพิ่มมาก่อนตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันเพิ่มราคามาประมาณ 4 บาท แต่ปีหน้าจะลดลง 1-2 บาท"นายมารุต กล่าว
นายมารุต กล่าวอีกว่า ในปี 54 ตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 10% จากปีนี้ สาเหตุที่ตั้งเป้าเติบโตค่อนข้างต่ำกว่าปีนี้เพราะกำลังการผลิตและยอดขายก็สูงขึ้นมามากแล้ว ทำให้ฐานเริ่มใหญ่ขึ้น อย่างไรก็ตาม ความต้องการของตลาดยังมีแน่นอนและราคาผลผลิตการเกษตรก็สูง แม้ว่าช่วงน้ำท่วมมีพื้นที่การเกษตรเสียหาย แต่คงจะไม่กระทบการจับจ่ายใช้สอยในส่วนของการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ประกอบกับภาครัฐก็มีเงินช่วยเหลือให้ด้วย