พบรายการบิ๊กล็อตหุ้น BIGC 5 รายการ จำนวน 13,136,600 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 840.74 ล้านบาท เทรดเฉลี่ย 64 บาท/หุ้น ขณะที่ราคาหุ้นบนกระดานเทรดหลักอยู่ที่ 67.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท(+1.12%)มูลค่าซื้อขาย 8.01 ล้านบาท
วานนี้(3 พ.ย.)มีรายการบิ๊กล็อตหุ้น BIGC 7 รายการ จำนวน 13,388,200 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 850.15 ล้านบาท เทรดเฉลี่ย 63.50 บาท/หุ้น
เมื่อ 2 พ.ย.53 มีรายการบิ๊กล็อตหุ้น BIGC 4 รายการ จำนวน 13,878,000 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 877.94 ล้านบาท เทรดเฉลี่ย 63.26 บาท/หุ้น
แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า รายการบิ๊กล็อตหุ้น บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์(BIGC)ในช่วง 2-3 วันมานี้ รวมจำนวน 40,402,800 หุ้น คิดเป็น 5.04% ของทุนชำระแล้วที่มี 801.39 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท คาดว่าจะเป็นการทำดีลของกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ผ่านโนมินี
ผู้บริหารของบมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์(BIGC)กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า รายการบิ๊กล็อตหุ้น BIGC ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ ก็มีคนสอบถามเข้ามาหลายราย แต่ก็ยังไม่ทราบชัดว่าใครเป็นผู้ทำดีล ส่วนเรื่องที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นผู้ทำดีลบิ๊กล็อตในครั้งนี้ ในลักษณะของการโยกย้ายหุ้นกันเองภายในกลุ่มฯ คิดว่าก็มีความเป็นไปได้เหมือนกัน เพราะอดีตเคยเห็นมีการเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือหุ้นที่เป็นโนมินี เนื่องจากรายการบิ๊กล็อตที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งไม่ได้มาก ดังนั้นทางผู้ถือหุ้นจึงไม่จำเป็นต้องรายงานให้ทราบ
"เรื่องบิ๊กล็อตที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ก็มีคนถามมาเยอะเหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำดีลนะ.....ก็เป็นไปได้ที่จะเป็นการโยกหุ้นของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ เพราะอดีตเคยเห็นชื่อผู้ถือหุ้นเปลี่ยนไปที่เป็นโนมินี"ผู้บริหาร BIGC กล่าว
อนึ่ง ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ BIGC 10 อันดับแรก ล่าสุดเมื่อ 8 เม.ย.53 ประกอบด้วย GEANT INTERNATIONAL B.V. ถือหุ้น 35.92%, บริษัท เสาวนีย์โฮลดิ้งส์ จำกัด ถือหุ้น 27.24%, THE BANK OF NEW YORK (NOMINEES) LIMITED ถือหุ้น 3.12%, บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือหุ้น 2.99%,
UBS AG SINGAPORE,BRANCH-PB SECURITIES CLIENT CUSTODY ถือหุ้น 2.25%, EFG BANK AG ถือหุ้น 1.98%, MRS.ARUNEE CHAN ถือหุ้น 1.53%, AMERICAN INTERNATIONAL ASSURANCE COMPANY, LIMITED-DI-LIFE ถือหุ้น 1.26%, นายสุทธิลักษณ์ จิราธิวัฒน์ ถือหุ้น 0.97% และนายนิติ โอสถานุเคราะห์ ถือหุ้น 0.91%
*คาดผลประกอบการ Q3/53 ดีกว่า Q2/53 เตรียมส่งงบฯ 12 พ.ย.นี้
ผู้บริหาร BIGC กล่าวอีกว่า สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 3/53 คาดว่าจะออกมาดีกว่างวดเดียวกันของปีที่แล้ว(Q3/52)แม้ว่าสาขาราชดำริจะถูกปิดไปจากผลกระทบทางการเมืองก็ตาม โดยบริษัทฯคาดว่าจะส่งงบฯให้ตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 12 พ.ย.นี้
"ส่วนกำไรปีนี้ก็คาดว่าจะโตเยอะ จากที่มีการประหยัดขึ้น หลังจากที่เจอผลกระทบสาขาราชดำริปิดไป ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นของสาขาราชดำริประมาณ 300-400 ล้านบาทตาม Book Value ซึ่งบริษัทฯก็ได้รับการเคลมประกันได้ และเริ่มรับรู้การเคลมประกันตั้งแต่ไตรมาส 2/53 แล้ว ส่วนสาขาราชดำริ ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการปรับปรุงใหม่ ซึ่งก็คงจะแล้วเสร็จและพร้อมที่จะเปิดให้บริการได้ในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า(2554)"ผู้บริหาร BIGC กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"