นางศรีวรรณ เอี่ยมรุ่งโรจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่แผนและกลยุทธ์องค์กร บมจ.ปตท.(PTT) กล่าวว่า โรงแยกก๊าซธรรมชาติแห่งที่ 6 จะเริ่มเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ได้เต็มที่ภายในเดือน ม.ค.54 ล่าล้ากว่าแผนเดิมที่คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ปลายปี 53 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองเดินเครื่องและทดสอบระบบ คาดว่าจะใช้เวลา 3 เดือน หลังจากได้รับใบอนุญาตจากภาครัฐล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ ในปี 54 บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นมากจากการขายก๊าซ LPG หลังจากเดินเครื่องโรงแยกก๊าซฯแห่งที่ 6 ที่มีกำลังผลิต LPG ที่ประมาณ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน และมีกำลังผลิตอีเทนที่ใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีโรงแยกก๊าซฯแห่งใหม่ แต่บริษัทก็ยังจำเป็นต้องนำเข้าก๊าซ LPG เนื่องจากความต้องการใช้ในประเทศยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และกำลังผลิตส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้น ยังต้องนำไปใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในเครือ PTT ที่มีกำลังการผลิตใหม่ที่เตรียมเดินเครื่องในปีหน้าเช่นกัน
นางศรีวรรณ กล่าวว่า ขณะนี้ ปตท.มีความสามารถในการนำเข้า LPG ต่อปีราว 1.8 ล้านตัน ซึ่งในปีนี้เฉลี่ยต่อเดือนนำเข้ามา 1.3 แสนตัน จึงต้องมีการพิจารณาว่าจะมีแก้ไขปัญหาอย่างไร คงจะต้องรอภาครัฐในการพิจารณาปรับราคาขายก๊าซ LPG ในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากขณะนี้ต่ำกว่าราคาตลาดโลกอยู่มาก ซึ่งคาดว่าจะมีข้อสรุปในเดือน ก.พ.54 หากภาครัฐปรับเพิ่มขึ้นราคาตามจริงทั้งระบบ จะทำให้ความต้องการใช้ก๊าซ LPG ที่คาดว่าจะเติบโตประมาณ 10% ในปีหน้า ลดลงเหลือประมาณ 5-6%