หุ้น AJ และ PTL ราคาวิ่งขึ้น ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างคึกคัก โดยเมื่อเวลา 10.10 น.หุ้น AJ อยู่ที่ 29 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท(+10.48%) มูลค่าซื้อขาย 350.14 ล้านบาท
หุ้น PTL อยู่ที่ 36.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท(+4.32%)มูลค่าซื้อขาย 383.46 ล้านบาท
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย)หรือ PTL และ บมจ.เอ.เจ.พลาสท์(AJ) คาดว่าจะออกงบการเงินไตรมาส 3/53 ดีเกินคาด ทั้ง AJ และ PTL เนื่องจากได้รับผลบวกจากผลิตภัณฑ์ BOPET ซึ่งสเปรดปรับตัวสูงขึ้นอีก 1 เท่าตัวเป็นราว 2,500 เหรียญฯต่อตันจากไตรมาสก่อน 1,200 เหรียญฯต่อตัน
ทั้งนี้ กำไรสุทธิของ AJ ไตรมาส 3/53 คาดว่าจะสูงขึ้นอีก 2 เท่าตัวเมื่อเทียบไตรมาสก่อน ในขณะที่ประเมินคร่าว ๆ PTL คาดว่าจะมีกำไรที่สูงขึ้นระดับ 1,100 ล้านบาท สำหรับงวดการเงินถัดไปด้วย จากที่ไตรมาส 2/53 ที่เพิ่งประกาศงบไปทำกำไรได้มากถึง 700 ล้านบาทมาแล้ว
AJ ราคาเป้าหมาย 43 บาท ประมาณการกำไรสุทธิในไตรมาส 3/53 ของ AJ ใหม่ออกมาได้ 370 ล้านบาท และไตรมาส 4/53 มีแนวโน้มทำกำไรได้อีก 300 ล้านบาท ทั้งที่ครึ่งแรกของปี 53 ทำกำไรได้ 160 ล้านบาท สาเหตุสำคัญมาจากสเปรดของผลิตภัณฑ์ฟิล์มดีขึ้นทั้ง BOPP (550 เหรียญฯสหรัฐฯ ต่อตัน),BOPET (2,500 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน) และ BOPA (1,500 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน)
โดยเฉพาะ BOPET เป็นผลิตภัณฑ์ดาวรุ่ง ที่ไตรมาส 2/53 ต่อถึงต้นไตรมาส 3/53 ยังมีสเปรดอยู่ราว 1,200 เหรียญฯ แต่ในช่วงปลายไตรมาส 3/53 ต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 4/53 สเปรดขึ้นมาอยู่ราว 2,500 เหรียญฯ คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2553 ของ AJ เท่ากับ 2.20 บาท และปี 2554 เท่ากับ 3.10 บาท
PTL ราคาเป้าหมาย 53 บาท คาดการณ์ไตรมาสที่จะมีกำไรสุทธิโดดเด่นสุดคือไตรมาส 3/FY54 (ต.ค.-ธ.ค.53) คาดว่าจะทำกำไรได้ 1.40 บาทต่อหุ้น หลังจากครึ่งปีแรกทำกำไรไปแล้ว 1.47 บาทต่อหุ้น ปี 53 และ 54 คาดว่าจะทำกำไรได้ราว 3.30-3.80 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้เนื่องจากกำลังการผลิตส่วนใหญ่ของ PTL มุ่งไปทำผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและมาร์จิ้นดีมาก คือ BOPET ข้อดีคือ 2-3 ไตรมาสข้างหน้ากำไรและมาร์จิ้นจะสูงต่อไป