ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลงเช้านี้ เนื่องจากหุ้นกลุ่มธุรกิจน้ำมันและโลหะตามราคาน้ำมันและโลหะที่อ่อนตัวลงเมื่อคืนนี้ ประกอบกับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากตลาดปรับตัวขึ้นติดต่อกันหลายวัน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 9,667.44 จุด ลดลง 65.48 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,858.34 จุด ลบ 106.03 จุด ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนขยับลง 0.02% แตะ 3,159.02 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,943.56 จุด เพิ่มขึ้น 1.15 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,430.70 จุด บวก 0.12 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,521.71 จุด บวก 1.87 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,769.80 จุด ลดลง 8.60 จุด และดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,299.50 ลบ 0.90 จุด
ดัชนี MSCI Asia Pacific ลบ 0.2% แตะ 134.99 จุด เมื่อเวลา 9.34 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว
หุ้นวู้ดไซด์ ปิโตรเลียม ร่วง 5.3% ในตลาดหุ้นออสเตรเลีย หลังจากที่รอยัล ดัทช์ เชลล์ ได้ขายหุ้นในสัดส่วน 10% ออกไป และราคาน้ำมันดิบก็อ่อนตัวลงต่อเป็นวันที่ 2 ขณะที่หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วง 1.2% หลังจากที่ราคาน้ำมันและโลหะอ่อนตัวลง หุ้นแคนนอนอ่อนตัว 0.8% ในตลาดหุ้นโตเกียว เนื่องจากความกังวลที่ว่า เงินเยนที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์อาจจะส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange ) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 87.06 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังเคลื่อนตัวในช่วง 85.96-87.49 ดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 5.50 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,403.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,386.60 - 1,410.40 ดอลลาร์