SYNEX คาดผลงานปลายปีเติบโตดี หลังจำหน่ายสินค้าเพิ่ม-ทำตลาด BB จริงจัง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 9, 2010 15:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและซีอีโอ บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ยังมีทิศทางการเติบโตที่ดี จากสัญญาณบวกสนับสนุนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการตลาดสินค้าไอทีที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ประการสำคัญขณะนี้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของสินค้าหลายรายให้จัดจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/53 เป็นต้นไป อาทิ สินค้าในกลุ่ม เอเซอร์ ที่ปัจจุบันได้จัดจำหน่ายเกือบทุกรายการยกเว้นกลุ่มโน้ตบุ๊คเท่านั้น รวมทั้งสมาร์ทโฟน BlackBerry ที่จะเริ่มขยายตลาดอย่างจริงจังตั้งแต่ไตรมาส 4/53 ซึ่งคาดว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดี เนื่องจากเป็นโทรศัพท์มือถือที่เป็นที่นิยม

ประกอบกับ SYNEX ให้ความสำคัญกับการให้บริการหลังการขายอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น และมุ่งขยายศูนย์บริการ และสาขาในภูมิภาค และเร่งขยายร้านไอทีรูปแบบทันสมัย ซีเน็ค ช็อป (Cnex shop) ซึ่งเป็นระบบแฟรนไชส์ค้าปลีก เพื่ออำนวยความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าให้กับลูกค้า ในขณะเดียวกันยังมุ่งควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น จึงคาดว่าจะสนับสนุนให้รายได้ทั้งปีเติบโตจากปีก่อนเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 12-15% โดยได้ปรับหมายการเติบโตของรายได้เพิ่มเป็น 18-20% เพื่อให้สอดคล้องกับภาพที่แท้จริงของธุรกิจ

“ตลาดไอทีขยายตัวมากในครึ่งปีหลัง และคาดว่าจะโตต่อเนื่องถึงปีหน้า ผลประกอบการไตรมาส 3/2553 เองก็เติบโตอย่างโดดเด่น ดังนั้นเราจึงได้ปรับเป้ารายได้ปีนี้เพิ่มเป็นโต 18 - 20% เพราะเพียงแต่งวด 9 เดือนเราก็ทำรายได้ต่ำกว่าปีที่แล้วทั้งปีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น" นายสุพันธุ์ กล่าว

สำหรับผลประกอบไตรมาส 3/53 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.53 ว่า บริษัทฯ มีรายได้สุทธิ 4,204.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.25% จากช่วงเดียวกันของปี 52 ที่มีรายได้ 3,745.23 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 85.55 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.13 บาท เพิ่มขึ้น 15.17% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 74.28 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.11 บาท

ส่งผลให้ในผลประกอบการงวดสะสม 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.53 บริษัทฯ มีรายได้ 11,708.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 10,017.01 ล้านบาท ในขณะที่ผลกำไรสุทธิทำได้ 219.41 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.33 บาท เพิ่มขึ้น 30.04% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 168.73 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.25 บาท

ผลกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้จากการขายและบริการรวมของบริษัทฯ ที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงปีเดียวกันของปี 2552 จากส่วนแบ่งทางการตลาดที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่บริษัทฯได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าหลากหลายมากขึ้น โดยสินค้า ตัวใหม่ๆ อาทิ โน้ตบุ๊ค Samsung และ Toshiba เป็นต้น ประกอบกับยอดขายของสินค้าในกลุ่ม เน็ทเวิร์ก เติบโตขึ้นมาก อันเนื่องมาจากโปรเจ็คที่มาจากทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชน

สินค้าหลักที่ทำรายได้ดี ได้แก่ สินค้าจากบริษัท ซิสโก้ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CISCO ประการสำคัญบริษัทฯ ยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ให้เพิ่มขึ้นในสัดส่วนเดียวกับยอดขายที่เพิ่มขึ้นจึงส่งผลให้กำไรเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นดังกล่าว

“จะเห็นได้ว่ารายได้สะสมเพียง 9 เดือนของซินเน็คฯ ในปีนี้ถือว่าต่ำกว่ารายได้ทั้งปีของปีที่ผ่านมาเล็กน้อย โดยในปีที่แล้วทั้งปีเราทำได้ 13,427.44 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนปีนี้เราทำได้ 11,708.30 ล้านบาท แต่ถ้าสังเกตกำไรสุทธิจะเห็นว่าซินเน็คฯ ทำกำไรในงวด 9 เดือนสูงกว่าปีที่แล้วทั้งปี" นายสมัย กล่าว

ปัจจัยหลักนอกจากรายได้เพิ่มขึ้นจากที่บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์การขยายธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่แท้จริง ทำให้มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นในหลายกลุ่มสินค้าแล้ว ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ลงทุนในเทคโนโลยีทางด้านไอที และการบริหารจัดการคลังสินค้า จนทำให้สามารถรองรับการเติบโตของธุรกิจได้เป็นอย่างดี

และยังมาจากการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 15.75% หรือจาก 560.55 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 52 มาเป็น 648.85 ล้านบาทในปี 53 จึงสะท้อนให้ผลประกอบการเติบโตได้อย่างโดดเด่นดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ